-
เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ในยุคที่ 1 สมัยอาณาจักรล้านนารุ่งเรือง
-
พญามังรายทรงสร้างเมืองเชียงใหม่ให้เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนา ให้เป็นศูนย์กลางการปกครอง เศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรม พร้อมทั้งทรงสร้างวัดเชียงมั่น โดยยกตำหนักที่ประทับถวายสร้างเป็นพระอารามหลวง เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในตัวเมืองและถือเป็นวัดแห่งแรกในเขตกำแพงเมือง
-
เดิมมีแต่ สถูปบรรจุพระอัฐิของพญามังราย สร้างโดยพญาไชยสงครามพระโอรส หลังจากที่พญามังรายได้สวรรคตที่เมืองเชียงใหม่ ในปี พ.ศ.1860 พญาไชยสงครามพระราชโอรสได้ถวายพระเพลิงพระศพพญามังรายมหาราชแล้วพระองค์ทรงไม่โปรดเมืองเชียงใหม่ ได้กลับมาครองเมืองเชียงรายและอัญเชิญพระอัฐิของพญามังรายมาประดิษฐาน ณ ดอยแห่งนี้ ต่อมา พ.ศ. 2030 พระยาศรรัชฎาเงินทอง ได้มาบุรณะและสร้างวัดขึ้นให้ชื่อว่า "วัดงำเมือง"
-
สร้างขึ้นโดยพญาผายู กษัตริย์องค์ที่ 5 และได้นำอัฐิ พญาคำฟู ผู้เป็นราชบิดา มาบรรจุในสถูปประดิษฐานไว้ ณ ที่แห่งนี้
-
พญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่ง ราชวงศ์มังราย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็น "พระอารามหลวง" เพื่อให้เป็นที่จำพรรษาของ "พระมหาเถระสุมน" ผู้ประดิษฐานพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ในแผ่นดินล้านนา และสร้างองค์พระเจดีย์เพื่อประดิษฐาน "พระบรมสารีริกธาตุ" 1 ใน 2 องค์ ที่ "พระมหาเถระสุมน" อัญเชิญมาจากสุโขทัย
-
วัดเจดีย์หลวงเป็นพระอารามหลวงแบบโบราณ มีการบูรณะมาหลายสมัย ในส่วนของพระธาตุเจดีย์หลวงได้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแก่พญากือนา พระราชบิดา ในปี 2088 เกิดแผ่นดินไหวขึ้นในเมืองเชียงใหม่ และพระธาตุเจดีย์หลวงได้รับความเสียหายอย่างหนัก
-
ขบวนอัญเชิญพระพุทธสิงหิงค์จากเชียงรายมายังเชียงใหม่ ล่องเรือมาตามลำน้ำ แล้วเกิดเหตุการณ์ปาฏิหาริย์ขององค์พระพุทธสิหิงค์ ท้องฟ้าที่สว่างก็มืดลง และมีพระรัศมีจากองค์พระพุทธสิหิงค์พุ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นลำแสงสีทองยาว ประมาณ 2,000 วา และสิ้นสุดลง ณ ที่แห่งหนึ่ง ท้องฟ้านั้นก็สว่าง พญาแสนเมืองมา จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอารามขึ้น ณ ที่ลำแสงสิ้นสุดนั้นว่า “อารามฟ้าฮ่าม” (วัดฟ้าฮ่าม) หมายถึง ฟ้าสว่าง อร่าม เรืองรอง
-
วัดศรีมุงเมืองเป็นวัดประจำหมู่บ้านลวงเหนือ อันเป็นชุมชนของชาวไทลื้อที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ชาวไทลื้อมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างมาก จึงมีการทำนุบำรุงรักษาวัดศรีมุงเมือง ณ บ้านลวงเหนือแห่งนี้มาเป็นอย่างดี
-
เป็นสถานที่ประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 8 ของโลก เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก และ มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่การประชุมสังคายนาพระไตรปิฎก จะจัดขึ้นในประเทศอินเดีย และ ศรีลังกา การประชุมครั้งนั้นใช้เวลา ๑ ปี จึงสำเร็จเรียบร้อย
-
วัดร่ำเปิงตโปทาราม สร้างโดยพญายอดเชียงรายและพระนางอะตะปะเทวี ตามประวัติของวัดที่ปรากฏในหลักศิลาจารึกมีใจความว่า ในที่แห่งนั้น พระนางอะตะปะเทวี ได้อาราธนานิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 100 รูป มาประชุมแล้วพระนางก็ทูลขออนุญาตพระราชสวามีสร้างวัดขึ้น แล้วได้พระราชทานนามว่าให้อีกว่า ตโปทาราม
-
เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 400 กว่าปีมาแล้ว ก่อนที่จะกลายเป็นวัดร้างเป็นระยะเวลานาน พระเมืองแก้วได้พระราชทานพระราชทรัพย์ให้พระมหาเถระป่าฟ้าหลั่งเป็นประธานในการก่อสร้างวิหารจัตุรมุข และปราสาทเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริธาตุ
-
เป็นบริเวณใกล้กับสถานที่สร้างพลับพลาที่ประทับ พระนางวิสุทธเทวี มหากษัตริย์แห่งล้านนาไทย เสด็จไปและกลับกรุงหงสาวดี และได้สร้างวัดประจำหมู่บ้านแห่งนี้ ในอดีตมีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นพระอารามหลวง