-
โรงละครเอพิดอรัส ถือเป็นโรงละครแห่งแรกของโลกที่ออกแบบอย่างได้มาตรฐาน มีลักษณะเป็นอัฒจรรย์ครึ่งวงกลม มีเวทีแสดงอยู่ตรงใจกลางเพื่อดึงสายตาของผู้ชมมารวมกัน ในยุคกรีกคลาสสิก การแสดงละครเวทีที่โรงละครเอพิดอรัสเป็นไปเพื่อความบันเทิง ผู้ชมส่วนใหญ่เป็นปัญญาชนที่มาชมละครเพื่อศึกษาปรัชญาชีวิต ละครที่แสดงมีเนื้อหาไปในเชิงตลกขบขัน โศกนาฏกรรม รวมทั้งละครบูชาเทพเจ้า อันเป็นความเชื่อของชาวกรีกโบราณร่วมด้วย ซึ่งละครประเภทหลังนี้ส่วนใหญ่เป็นการแสดงที่คล้ายกับการประกอบพิธีกรรม
-
ในยุคกรีกคลาสสิก การแสดงละครเวทีที่โรงละครเอพิดอรัสเป็นไปเพื่อความบันเทิง ผู้ชมส่วนใหญ่เป็นปัญญาชนที่มาชมละครเพื่อศึกษาปรัชญาชีวิต ละครที่แสดงมีเนื้อหาไปในเชิงตลกขบขัน โศกนาฏกรรม รวมทั้งละครบูชาเทพเจ้า อันเป็นความเชื่อของชาวกรีกโบราณร่วมด้วย ซึ่งละครประเภทหลังนี้ส่วนใหญ่เป็นการแสดงที่คล้ายกับการประกอบพิธีกรร
-
ชาวกรีกไม่สามารถเผชิญหน้ากับกองทหารม้า ของเปอร์เซีย ชาวกรีกได้ทราบว่ากองทหารม้าไม่อยู่ในค่ายของเปอร์เซียเป็นการชั่วคราว มิลเทียเดสจึงสั่งโจมตีทหาร ราบของเปอร์เซีย ในการสู้รบครั้งต่อมา มิลเทียเดสได้นำกองทหาร คนและชาวแพลตไปสู่ชัยชนะเหนือกองกำลังของเปอร์เซีย โดยเสริมกำลังที่ปีกของแนวรบ ซึ่งถูกล้อมโดยกองทหารกรีกที่หมุนเข้าด้านใน เมื่อเกือบถูกล้อม กองทหารเปอร์เซียก็รีบหนี รวมทั้งคาลิมาคัสด้วย การสู้รบครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าหอกยาว ดาบและชุดเกราะ ของกรีก เหนือกว่าอาวุธของเปอร์เซีย
-
การรุกรานครั้งแรกของเปอร์เซียเป็นการตอบสนองต่อการมีส่วนร่วมของเอเธนส์ในกบฏไอโอเนียเมื่อเอเธนส์และเอเรเทรียส่งกองกำลังไปสนับสนุนเมืองต่างๆ ในไอโอเนียในความพยายามที่จะโค่นล้มการปกครองของเปอร์เซีย ชาวเอเธนส์และเอเรเทรียประสบความสำเร็จในการยึดและเผาเมืองซาร์ดิสแต่ต่อมาพวกเขาถูกบังคับให้ล่าถอยพร้อมกับความสูญเสียอย่างหนัก ในการตอบโต้การโจมตีครั้งนี้ ดาริอัสสาบานว่าจะเผาเอเธนส์และเอเรเทรีย ตามคำบอกเล่าของเฮโรโดตัส ดาริอัสให้ธนูของเขามาที่เขาแล้วยิงลูกศร
-
มีการลงประชามติในปี 1920เพื่อฟื้นฟูคอนสแตนตินที่ 1 ให้ขึ้นเป็นกษัตริย์ แต่สี่ปีต่อมาสาธารณรัฐเฮลเลนิกที่สองก็ก่อตั้งขึ้น และระบอบกษัตริย์ก็ถูกยกเลิกหลังจากการลงประชามติในปี 1924จากนั้นในปี 1935 ระบอบกษัตริย์ก็ได้รับการฟื้นฟูหลังจากการลงประชามติและยังคงดำรงอยู่หลังจากการ ลงประชามติใน ปี1946
-
กรีกยุคแรกเป็นการปกครองแบบราชาธิปไตย หรือการปกครองโดยกษัตริย์ (Monarchy) เมืองต่าง ๆ มักจะมีผู้นำเป็นกษัตริย์ผู้มีอำนาจสูงสุด โดย
ตัวอย่างที่โดดเด่นในยุคนี้คือกรุงไมซีนี้
และทรอย ซึ่งทำหน้าที่เป็นประมุขและออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมสังคม ผู้มีอำนาจดังกล่าวนี้จะสืบทอดอำนาจของตนโดยทางสายเลือด
คุ้มครองความปลอดภัยให้กับสมาชิก และทำให้สมาชิกแต่ละคนได้รับความเสมอภาคในการเข้าถึงทรัพยากร การมีผู้ปกครองที่มีอำนาจเพียงหนึ่งเดียวในสังคมมนุษย์ ส่งผลอย่างไรต่อสมาชิกสมาชิกแต่ละคนได้รับความเท่าเทียมกันหรือไม่ -
โฮเมอร์ เป็นนักแต่งกลอนในตำนานชาวกรีก ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผู้แต่งมหากาพย์เรื่อง อีเลียด และ โอดิสซีย์ ชาวกรีกโบราณเชื่อกันว่าโฮเมอร์เป็นนักประวัติศาสตร์ แต่นักวิชาการในปัจจุบันกลับมองโฮเมอร์ด้วยความรู้สึกสงสัย เพราะเป็นข้อมูลชีวประวัติที่สืบต่อกันมายาวนานมาก อีกทั้งตัวกาพย์เอง ก็ถูกเล่าแบบปากต่อปากมานานนับศตวรรษ และถูกแก้ไขใหม่จนกลายมาเป็นกวี มาติน เวสต์ เชื่อว่า "โฮเมอร์" ไม่ใช่นามของกวีในประวัติศาสตร์ แต่เป็นเพียงชื่อที่ถูกสร้างขึ้นมา
-
เพราะเป็นข้อมูลชีวประวัติที่สืบต่อกันมายาวนานมาก อีกทั้งตัวกาพย์เอง ก็ถูกเล่าแบบปากต่อปากมานานนับศตวรรษ และถูกแก้ไขใหม่จนกลายมาเป็นกวี มาติน เวสต์ เชื่อว่า "โฮเมอร์" ไม่ใช่นามของกวีในประวัติศาสตร์ แต่เป็นเพียงชื่อที่ถูกสร้างขึ้นมา
-
การผ่าตัดในสนามรบของกองทัพโรมัน ชาวโรมันมีความสามารถทางด้านการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศัลยกรรมหรือการผ่าตัด สาธารณสุข มีการประดิษฐ์คีมและปากคีบเพื่อช่วยในการศัลยกรรมผ่าตัด สามารถผ่าตัดท่อน จึงเรียกการผ่าตัดแบบนี้ว่า “การผ่าแบบซีซ่าร์” โรงพยาบาลเพื่อบำบัดโรคจากการสงครามและจิตใจ มีความก้าวหน้าทางวิทยศาสตร์ การแพทย์ แบบใหม่ๆ ที่เน้นความผาสุกและความสบายแก่มนุษย์เป็นหลัก
-
มีการตรวจสุขภาพทหารให้พร้อมเสมอ
นอกจากจะได้รับการรักษาอย่างทันทีแล้ว โรมยังให้ความสำคัญกับสุขภาพของทหารทุกคนอีกด้วยเพราะการที่สุขภาพทหารทุกคนนั้นแข็งแรงก็จะยิ่งทำให้กองทัพมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยแพทย์ประกองทัพจะทำการตรวจร่างกายทหารทุกคนๆอยู่สม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมสำหรับออกรบ -
คณาธิปไตย เป็นรูปแบบการปกครอง ที่มีกลุ่มคนหรือคณะใดคณะหนึ่ง มีอำนาจในการปกครองแบบเบ็ดเสร็จ การปกครองโดยคนส่วนน้อยส่วนใหญ่กลุ่มคณะที่มีอำนาจนี้ จะเป็นกลุ่มอภิสิทธิ์ชน ซึ่งเป็นขุนนาง ชนชั้นสูง รวมไปถึงเศรษฐี ซึ่งกลุ่มคณาธิปไตยเหล่านี้ ก็ล้วนกอบโกยหาผลประโยชน์ ให้กับพวกพ้องและคณะของตนเท่านั้น โดยไม่ใส่ใจกับประชาชนที่อยู่ภายใต้การปกครองของพวกเขาท้ายที่สุด ระบอบคณาธิปไตยก็ล่มสลายลง อันเนื่องมาจากการแย่งชิงอำนาจกันเองภายในกลุ่มอภิสิทธิ์ชน
-
ชุดตัวอักษรกรีก เป็นชุดของอักษรที่ใช้สำหรับเขียนภาษากรีก โดยมีพัฒนาการมาตั้งแต่ยุคคลาสสิก และยังคงใช้สืบต่อเรื่อยมา นับเป็นอักษรที่เก่าแก่ที่สุดแบบหนึ่งที่ยังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน ในสมัยกรีกโบราณนั้น อักษรกรีกยังใช้เขียนแทนจำนวนอีกด้วย ซึ่งในกรณีนี้จะเรียกว่าเลขกรีก ในทำนองเดียวกับเลขโรมัน ทุกวันนี้เราใช้อักษรกรีกเป็นสัญลักษณ์คณิตศาสตร์ เป็นชื่อดาวฤกษ์ เป็นชื่อกลุ่มภราดรและกลุ่มภคินี และใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ อีกมาก ใช้เขียนคัมภีร์
-
ตลอดประวัติศาสตร์ คณาธิปไตยในบางประเทศได้เป็นทรราช ต้องอาศัยภาระจำยอมของสาธารณะจึงจะอยู่ได้ แม้คณาธิปไตยในประเทศอื่นจะค่อนข้างผ่อนปรน อริสโตเติลริเริ่มการใช้คำนี้เป็นคำไวพจน์ของการปกครองโดยคนรวย ซึ่งคำที่ถูกต้อง คือ เศรษฐยาธิปไตย (plutocracy) แต่คณาธิปไตยไม่จำเป็นต้องเป็นการปกครองด้วยความมั่งมีเสมอไป ด้วยผู้ปกครองในระบอบคณาธิปไตยเป็นกลุ่มมีเอกสิทธิได้ง่าย ๆ และไม่จำเป็นต้องเชื่อมโยงทางสายเลือดดังเช่นในราชาธิปไตย บางนครรัฐในสมัยกรีกโบราณปกครองแบบคณาธิปไตย
-
อักษรกรีกนั้นปรับปรุงแก้ไขจากอักษรฟินิเชีย และยังได้เป็นจุดกำเนิดพัฒนาการของอักษรอื่น ๆ อีกหลายแบบ เช่น อักษรละติน (อักษรโรมัน) อักษรกลาโกลิติก อักษรคอปติก และอักษรซีริลลิก เป็นต้น อาจรวมถึงอักษรอาร์มีเนียด้วย
จากข้อเขียนของเฮโรโดตัสระบุว่าตัวอักษรเข้าสู่กรีซครั้งแรกโดยชาวฟินิเชียชื่อแคดมัส การเปลี่ยนแปลงของอักษรกรีกเมื่อเทียบกับอักษรฟินิเชีย -
การปฏิวัติเชิงโครงสร้าง นำไปสู่การสร้างแผนที่ และการกำหนดสถานะทางการเมืองระหว่างกันขึ้นในโลกของชาวกรีก เริ่มมีการก่อตั้งนครรัฐ "โปลิส" (poleis) ที่มีแบบแผนเฉพาะตัวขึ้นมา ในยุคนี้ชาวกรีกได้พัฒนาทฤษฎีการเมือง การเศรษฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การสงคราม และวัฒนธรรมขึ้นอย่างรวดเร็ว และสิ่งเหล่านี้ปูพื้นฐานไปสู่ยุคทอง หรือยุคคลาสสิคของอารยธรรมกรีก นอกจากนี้ชาวกรีกในยุคอาร์เคอิกยังได้ฟื้นฟูการเขียนที่หายไปในระหว่างยุคมืด โดยมีการพัฒนาตัวอักษรกรีกจนมีลักษณะอย่างที่ใช้กันมาจนปัจจุบัน
-
การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสมัยโบราณนั้น แต่เดิมเป็นเทศกาลหรือการเฉลิมฉลองและบูชาเทพเจ้าซุส เป็นการแข่งขันกรีฑาระหว่างตัวแทนของนครรัฐและเป็นหนึ่งในการแข่งขัน ของกรีกโบราณ การแข่งขันถูกจัดเพื่อเป็นเกียรติแก่ซุสและชาวกรีกให้กำเนิดตำนานเทพปกรณัมกรีก ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ 776 ปีก่อนคริสตกาล ถูกจัดขึ้นทุก ๆ 4 ปีหรือเรียกว่า องจากจักรพรรดิธีโอโดซิอุสซึ่งเป็นคริสเตียน ทรงมีบัญชาให้ยกเลิกการประกอบพิธีกรรมนอกรีตทั้งหมด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์เพื่อกำหนดให้ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำกรุงโรม
-
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้โอลิมปิกไม่ได้รับความนิยมในยุคโรมัน เนื่องจากชาวโรมันมองว่า การเปลือยกายในที่สาธารณะของบรรดานักกีฬากรีกถือเป็นเรื่องน่าขายหน้า จึงไม่ให้การสนับสนุน แต่จักรพรรดิโรมันบางพระองค์มองเห็นประโยชน์ทางการเมืองของการแข่งขันกีฬาเช่นนี้ จึงทรงช่วยอุปถัมภ์บ้างเป็นครั้งคราว
สุดท้ายการแข่งขันโอลิมปิกยุคโบราณก็ถึงจุดจบเมื่อราวปี ค.ศ. 393 -
ช่วงต้น (Early Roman Art) - ประมาณ 753 - 27 ปีก่อนคริสต์ศักราช:
ศิลปะ Etruscan Influence: ศิลปะในช่วงนี้ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมเอทรัสกัน ซึ่งรวมถึงรูปปั้นและศิลปะตกแต่งที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมศาสนาและการฝังศพ.
ภาพวาดผนัง (Frescos): การตกแต่งผนังด้วยภาพวาดที่มีลวดลายเป็นรูปทรงเรขาคณิตและฉากทางธรรมชาติ. -
ปีค.ศ.: ใช้ทั่วไปตั้งแต่ราว 753 ปีก่อนคริสต์ศักราช จนถึงยุคปลายโรมัน (หลัง ค.ศ. 476)
จูนิกาคือชุดที่สวมใส่เป็นประจำวัน โดยทั้งชายและหญิงชาวโรมันจะสวมใส่ เป็นเสื้อผ้าทรงตรงทำจากขนสัตว์ ผ้าลินิน หรือผ้าฝ้าย มีความยาวตั้งแต่เข่าจนถึงข้อเท้า ขึ้นอยู่กับสถานะทางสังคม
สำหรับผู้ชายชนชั้นสูง จูนิกาจะสวมใต้โทก้า ส่วนผู้หญิงจะสวมจูนิกายาวมักจะใช้ผ้าพันเป็นชั้น ๆ -
ปีค.ศ.: ใช้ทั่วไปตั้งแต่ช่วงก่อตั้งโรม (753 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ถึงยุคปลายโรมัน
Calceus: รองเท้าหุ้มส้นที่ทำจากหนัง ใช้สวมใส่ในชีวิตประจำวันของชนชั้นสูง
Solea: รองเท้าชนิดรองเท้าแตะที่ใช้ในบ้านหรือในชีวิตประจำวัน สวมใส่ได้ทั้งชายและหญิง -
ประติมากรรมโรมันรับอิทธิพลมากจากชาวอีทรัสกันและกรีกยุคเฮเลนิสติก แสดงถึงลักษณะที่ถูกต้องทางกายภาพ เป็นแบบอุดมคติที่เรียบง่าย แต่ดูเข้มแข็งมาก ประติมากรรมอีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมคือประติมากรรมรูปนูนเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ มีรายละเอียดของเรื่องราว เหตุการณ์ถูกต้อง ชัดเจน ประติมากรรมโรมันในยุคหลัง ๆ เริ่มเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีกรรมทางศาสนามากเป็นพิเศษ วัสดุที่ใช้สร้างประติมากรรมของโรมันมักสร้างขึ้นจาก ขี้ผึ้ง ดินเผา หิน และสำริด
-
นักประวัติศาสตร์ได้แบ่งแยกช่วงการปกครองของจักรวรรดิโรมันเป็นสมัยผู้นำ ซึ่งเริ่มตั้งแต่จักรพรรดิเอากุสตุสจนถึงวิกฤตการณ์คริสตและสมัยครอบงำซึ่งเริ่มตั้งแต่จักรพรรดิไดโอคลีเชียนจนถึงการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก ซึ่งในสมัยผู้นำ ในจักรพรรดิจะมีอำนาจอยู่เบื้องหลังการปกครองแบบสาธารณรัฐ แต่ในสมัยครอบงำ อำนาจของจักรพรรดิได้แสดงออกมาอย่างเต็มที่ ด้วยมงกุฎทองและพิธีกรรมที่หรูหรา และเมื่อเร็ว ๆ นี้ นักประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ว่ารูปแบบการปกครองนี้ได้ใช้ต่อจนถึงช่วงเวลาของจักรวรรดิไบแซนไทน์
-
โทก้าเป็นเครื่องแต่งกายที่มีลักษณะเป็นผ้าชิ้นยาวคลุมร่างกาย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพลเมืองชายชาวโรมัน โดยเฉพาะชนชั้นสูงหรือผู้มีสิทธิ์ทางการเมือง Toga virilis: สวมโดยชายชาวโรมันเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่
Toga praetexta: สวมโดยข้าราชการและผู้พิพากษา โดยจะมีขอบสีม่วง
โทก้าถือว่าเป็นชุดที่ต้องสวมใส่ในโอกาสทางการ และมีน้ำหนักมากและไม่สะดวกสบายสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน -
เริ่มต้นจากการตั้งถิ่นฐานของชนชาวอิตาลิกในปี 753 ก่อนคริสตกาล บริเวณริมแม่น้ำไทเบอร์บนคามสมุทรอิตาลี ปกครองทั้งคาบสมุทรอิตาลีและยึดครองดินแดนขนาดใหญ่และผู้คนในทวีปยุโรปและรอบทะเลเมดิเตอเรเนียน ชาวอีทรัสกันเป็นพวกที่รับอารยธรรมกรีกมาผสมผสานกับอารยธรรมของตนและส่งต่อให้กับโรม
-
ประติมากรรมในยุคนี้มักเป็นรูปคนยืนตรง ท่วงท่าค่อนข้างแข็งทื่อ มีการยิ้มแบบ "Archaic Smile" เป็นลักษณะเด่นของรูปปั้นช่วงนี้ เช่น รูปปั้น "คูรอส" และ "โคริ ซึ่งเป็นรูปปั้นชายและหญิงยืนตรง เดิมได้รับอิทธิพลจากประติมากรรมของอียิปต์ ประติมากรรมกรีกสมัยแรกดูแทบจะคล้ายกับงานประติมากรรมอียิปต์แบบชนบท มา และการวางท่าหรือการเคลื่อนไหวก็ยังไม่ดูเป็นธรรมชาติ แต่ประติมากรรมสมัยอาร์เคอิคก็ค่อยพัฒนาขึ้นมาเป็นลักษณะที่เรียกว่า “ลักษณะคลาสสิก” ที่เริ่มจะแสดงให้เห็นความรู้ทางเทคนิคและความชำนาญที่เพิ่มมากขึ้น
-
จิตรกรรมของกรีกโบราณมีอยู่ในรูปแบบของภาพเขียนบนภาชนะดินเผา (Vase Painting) ที่นิยมวาดภาพฉากจากตำนานเทพเจ้าและชีวิตประจำวัน ภาชนะดินเผากรีกมีสองรูปแบบหลัก: Black-Figure Technique: ภาพวาดใช้สีดำในการระบายตัวละครลงบนพื้นสีแดง (ดินเผา) รูปแบบนี้นิยมในช่วงศตวรรษที่ 7-5 ก่อนคริสตกาล
Red-Figure Technique: เป็นเทคนิคใหม่ที่พัฒนาขึ้นในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล โดยใช้พื้นหลังสีดำ และระบายตัวละครเป็นสีแดง (สีของดินเผา) ซึ่งให้รายละเอียดมากขึ้น -
สถาปัตยกรรมกรีกนั้นมีความเรียบง่ายในทางเทคนิค แต่ได้สร้างสรรค์รูปแบบที่กลมกลืนกันด้วยรูปแบบรายละเอียดมากมายที่สถาปัตยกรรมโรมัน ส่วนใหญ่นำมาใช้ และยังคงใช้กันในอาคารสมัยใหม่บางแห่ง สถาปัตยกรรมกรีกใช้คำศัพท์เกี่ยวกับเครื่องประดับที่ใช้ร่วมกับเครื่องปั้นดินไปขยายขอบเขตไปไกลกว่าโลกกรีกที่ขยายตัวออกไปซึ่งสร้างขึ้นโดยอเล็กซานเดอร์มหาราชบริบททางสังคมของศิลปะกรีกรวมถึงการพัฒนาทางการเมืองที่รุนแรงและความเจริญรุ่งเรืองที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ความสำเร็จที่น่าประทับใจไม่แพ้กันของกรีกในด้านปรัชญาวรรณกรรม
-
การปฏิวัติเชิงโครงสร้าง นำไปสู่การสร้างแผนที่ และการกำหนดสถานะทางการเมืองระหว่างกันขึ้นในโลกของชาวกรีก เริ่มมีการก่อตั้งนครรัฐ "โปลิส" (poleis) ที่มีแบบแผนเฉพาะตัวขึ้นมา ในยุคนี้ชาวกรีกได้พัฒนาทฤษฎีการเมือง การเศรษฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การสงคราม และวัฒนธรรมขึ้นอย่างรวดเร็ว และสิ่งเหล่านี้ปูพื้นฐานไปสู่ยุคทอง หรือยุคคลาสสิคของอารยธรรมกรีก นอกจากนี้ชาวกรีกในยุคอาร์เคอิกยังได้ฟื้นฟูการเขียนที่หายไปในระหว่างยุคมืด โดยมีการพัฒนาตัวอักษรกรีกจนมีลักษณะอย่างที่ใช้กันมาจนปัจจุบัน
-
ระบอบทรราชย์ เป็นรูปแบบการปกครองแบบหนึ่งของอารยธรรมกรีกโบราณ โดยในช่วงเวลานั้น ทรราชย์จะหมายถึง บุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ประชาชนให้การสนับสนุน ในการโค่นล้มอำนาจของคณาธิปไตย ก่อนที่บุคคลผู้นั้น จะกลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดแต่เพียงผู้เดียวดังนั้นคำว่า "ทรราชย์" ในยุคสมัยกรีกโบราณ จึงมีความหมายในเชิง "วีรบุรุษ" มากกว่าที่จะเป็น "ผู้ร้าย" นักปฏิรูปคนสำคัญของนครรัฐเอเธนส์ ซึ่งทั้งสองคนก็เป็นทรราชย์
-
โดยผู้นำที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จและมักใช้อำนาจอย่างกดขี่ประชาชน รูปแบบการปกครองนี้เกิดขึ้นในหลายยุคหลายสมัยในประวัติศาสตร์ โดยไม่สามารถระบุเป็นปีที่แน่นอนได้ว่าเริ่มและสิ้นสุดเมื่อใด เนื่องจากการทรราชย์สามารถเกิดขึ้นในหลายวัฒนธรรมและช่วงเวลาแตกต่างกันไป
ในประวัติศาสตร์กรีกโบราณ ระบอบทรราชย์ในรัฐเมืองต่างๆ ซึ่งในช่วงแรกไม่ได้มีความหมายเชิงลบเสมอไป ผู้ปกครองเหล่านี้บางคนขึ้นสู่อำนาจด้วยการสนับสนุนจากประชาชน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ปกครองหลายคนใช้อำนาจในทางที่กดขี่ จึงทำให้เกิดความหมายเชิงลบ -
ทาแลสแห่งมีแลโตส เป็นนักปรัชญาของชาวกรีกโบราณ ได้รับการยกย่องจากอริสโตเติล เป็นนักปรัชญาคนแรกที่บันทึกความคิดไว้เป็นหลักฐาน และได้รับเกียรติให้เป็นบิดาของวิชาปรัชญาตะวันตก เบอร์ทรันด์ รัสเซลล์กล่าวว่า "วิชาปรัชญาเริ่มต้นจากเธลิส"ทาแลสเป็นคนแรกที่คำนวณหาความสูงของพีระมิดในอียิปต์โดยใช้เงา เขาได้ทำนายว่าจะเกิดสุริยคราสล่วงหน้าซึ่งได้เกิดขึ้นก่อน รู้จักพิสูจน์ทฤษฎีบททางเรขาคณิต เช่น เส้นผ่านศูนย์กลางจะแบ่งครึ่งวงกลม มุมที่ฐานของรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่วเท่ากัน และมุมในครึ่งวงกลมเป็นมุมฉาก
-
บรรดานักปราชญ์ยังคงถกเถียงกันถึงเรื่อง “ปัญหาโสกราตีส” นั่นคือเราจะสามารถจำแนกแยกประวัติศาสตร์ของโสกราตีสที่ถูกพรรณาถึงโดยคนอื่นๆ และการตีความถึงตัวโสกราตีสที่มีความแตกต่างกันโดยบรรดาผู้ประพันธ์ที่อยู่ในยุคร่วมสมัยของเขาได้อย่างไร นักศึกษากฎหมายยังคงยืนยันว่า วิธีการซักถามของโสกราตีสที่เรียกว่า “วิธีของโสกราตีส” โสกราตีสมีความโดดเด่นในฐานะทหารกรีกที่รบในสงครามเพโลพอนนี้เซียนระหว่างเอเธนส์กับสปาร์ตา เขาได้รับความดีความชอบในเรื่องของการอดทนกับความยากลำบากทางร่างกาย และความความกล้าหาญ
-
เป็นนักปรัชญาชาวกรีกโบราณในยุค ก่อนโสเครติก จาก เมืองมิเล ในทางคณิตศาสตร์ ทาลีสเป็นชื่อเดียวกับทฤษฎีบทของทาลีสและทฤษฎีบทสกัดกั้นอาจเรียกอีกอย่างว่าทฤษฎีบทของทาลีส กล่าวกันว่าทาลีสคำนวณความสูงของพีระมิดและระยะห่างของเรือจากชายฝั่ง ในทางวิทยาศาสตร์ ทาลีสเป็นนักดาราศาสตร์ที่ทำนายสภาพอากาศและสุริยุปราคาได้ การค้นพบตำแหน่งกลุ่มดาวหมีใหญ่ยังเชื่อกันว่าเป็นผลงานของทาลีส เช่นเดียวกับการกำหนดเวลาของครีษมายันและวิษุวัตเขายังเป็นวิศวกรที่รู้จักกันว่าเปลี่ยนเส้นทางแม่น้ำฮาล
-
อะแนกซิแมนเดอร์ เป็นนักปรัชญาชาวกรีกและเป็นศิษย์ของทาแลส มนุษย์วิวัฒนาการมาจากปลาในน้ำ เมื่อโลกยังเป็นของเหลว เมื่อโลกแห้งก็ขึ้นฝั่งแล้ววิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์ ปรัชญาของอานักซามานเดอร์ สิ่งที่จะเป็นปฐมธาตุของโลก ควรจะมีความเป็นกลาง คือในตัวมันเองยังไม่เป็นอะไร ยังไม่เป็นดิน น้ำ ลม ไฟ มันจะยังไม่ สังกัดกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ปฐมธาตุจึงควรเป็นสารที่ไร้ รูป ที่ไม่มีรูปลักษณะเหมือนสิ่งของใดๆ ที่คนเรา รู้จัก มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่มันเป็นสิ่งที่เป็น นิรันดรและแผ่ซ่านไม่มีที่สิ้นสุด
-
เป็นนักปรัชญาชาวกรีกและเป็นศิษย์ของทาแลส เกิดเมื่อก่อนพุทธศักราช 68 ปี และเสียชีวิตในช่วงก่อนพุทธศักราชประมาณ 3-4 ปี ปรัชญาของเขาต่างจากเธลีสเพราะเห็นว่าปฐมธาตุไม่ใช่น้ำแต่เป็นอนันตภาวะ สสารทุกอย่างมาจากอนันตภาวะและเมื่อสลายตัวก็จะกลับไปสู่อนันตภาวะ โลกก็มาจากอนันตภาวะ มนุษย์วิวัฒนาการมาจากปลาในน้ำ เมื่อโลกยังเป็นของเหลว เมื่อโลกแห้งก็ขึ้นฝั่งแล้ววิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์
-
บรรดาผู้อพยพต่างรวมตัวกันตั้งนครรัฐแห่งโรมขึ้น ทำเลของนครรัฐตั้งอยู่ในที่ซึ่งเหมาะสม โรมในอนาคตทางเหนือของโรมติดต่อกัยดินแกนที่เรียกว่า อีทรูเรีย คือ ทัสคานีปัจจุบัน อีทรูเนียเป็นที่อยู่อาศัยของพวกที่มีอารยธรรมสูงเรียกว่า อีทรัสกัน
-
ลักษณะ: เสา Doric เป็นเสาที่เรียบง่ายและแข็งแรงที่สุดในบรรดาเสาโรมัน ส่วนบน (capital) ของเสามีลักษณะเรียบ ไม่มีการตกแต่งมากนัก ฐานของเสาไม่มีการตกแต่งเป็นพิเศษ ใช้ในการสร้างสิ่งก่อสร้างที่ให้ความรู้สึกหนักแน่นมั่นคง เช่น วิหาร Parthenon ของกรีก วิหารโรมันโบราณ (Roman temples) ที่มีการใช้เสา Doric ได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมกรีก
-
โสเครติสเน้นการตั้งคำถามและค้นหาความจริงผ่านวิธีการสนทนาเชิงวิภาษ แนวคิดของเขามุ่งเน้นไปที่ศีลธรรมและความดี โดยเน้นให้ผู้คนค้นหาความรู้จากภายในตัวเอง และมีแนวคิดว่า "ชีวิตที่ไม่ได้ทบทวน คือชีวิตที่ไม่ควรมีชีวิตอยู่"ไปพัวพันในสงครามน้ำลายกับเหล่านักปรัชญากลุ่ม แห่งเอเธนส์ที่หาเลี้ยงชีพโดยการสอนทักษะโวหาร ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในสนามการเมืองให้กับบรรดาเศรษฐีแห่งเอเธนส์ โสกราตีสได้ติเตียนเป็นกลุ่มคนที่มาทำเรื่องเล่นกับปรัชญา
-
เป็นนักคณิตศาสตร์และนักปราชญ์ชาวกรีกโบราณ เป็นที่รู้จักในนามเจ้าของทฤษฎีบทพีทาโกรัส บิดาแห่งตัวเลข" พีทาโกรัสไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อคณิตศาสตร์ เขายังได้สร้างสรรค์ความคิดหลายอย่างให้กับปรัชญาและศาสนา ความเชื่อว่าตัวเลขเป็นธรรมชาติของทุกสิ่ง พวกเขาปฏิบัติพิธีกรรมล้างมลทินกฎการกินอาหาร และกฎอื่น ๆทำให้พวกเขาเป็นอิสระจากวงจรการเกิดใหม่ พวกพีทาโกเรียนปฏิบัติต่อทาสอย่างดีเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีวิญญาณ พวกพีทาโกเรียนยังเชื่ออีกว่าการชำระล้างวิญญาณที่สูงที่สุดคือปรัชญาหลายสิ่งที่พวกพีทาโกเรียนปฏิบัตินั้น
-
พีทาโกเรียน" ผู้ที่เป็นนักคณิตศาสตร์และนักปราชญ์ที่บุกเบิกเรขาคณิต พวกพีทาโกเรียนยังมีความเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิดและความเชื่อว่าตัวเลขเป็นธรรมชาติที่แท้จริงของทุกสิ่ง พวกเขาปฏิบัติพิธีกรรมล้างมลทิน ปฏิบัติตามกฎการกินอาหาร และกฎอื่น ๆ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าการปฏิบัติเช่นนี้จะทำให้พวกเขาเป็นอิสระจากวงจรการเกิดใหม่ พวกพีทาโกเรียนปฏิบัติต่อทาสอย่างดี และสัตว์มีฐานะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีวิญญาณ พวกพีทาโกเรียนยังเชื่ออีกว่าการชำระล้างวิญญาณที่สูงที่สุดคือ "ปรัชญา" หลายสิ่งที่พวกพีทาโก
-
เสาแบบไอออนิก เป็นลักษณะทางสถาปัตยกรรม หนึ่งในสามของเสาแบบคลาสสิก ซึ่งนำมาจากกรีกและโรมันโบราณ อีกสองแบบได้แก่ ดอริกและคอรินเทียน (นอกจากนี้ยังมีเสาอีกสองแบบที่สำคัญน้อยกว่า ได้แก่ ทัสกัน และอีกแบบหนึ่งซึ่งเป็นการเพิ่มเติมและผสมผสานรายละเอียดของแบบคอรินเทียนกับแบบอื่น ๆ มาก สถาปัตยกรรมแบบไอโอนิกมีเสาที่บางกว่าและมีฐานรองรับ ส่วนหัวเสามีลักษณะเป็นรูปเกลียวหรือคด (volutes) ตัวอย่างที่เด่นชัดคือ วิหารแห่งเทพีอาร์เทมิส (Temple of Artemis) ในเอเฟซัส
-
สถาปัตยกรรมแบบคอรินเธียนมีหัวเสาที่ประดับด้วยใบไม้สลักแบบละเอียด โดยเฉพาะลาย "ใบอะคันธัส" (Acanthus Leaves) รูปแบบนี้นิยมในยุคเฮลเลนิสติก ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ วิหารโอลิมเปียนซุส (Temple of Olympian Zeus) ในเอเธนส์
-
พาร์เมนิดีส (อังกฤษ: Parmenides) เป็นนักปรัชญาชาวกรีกเกิดที่เมืองอีเลีย มีลักษณะใกล้เคียงกับปรัชญาของเซนอฟะนีส โดยแบ่งแยกความจริงเป็นสองแบบคือความจริงแท้เรียกภวันต์ เป็นสิ่งที่เป็นหนึ่งเดียว แบ่งแยกไม่ได้ ไม่เกิดไม่ดับ กับความจริงเทียมซึ่งเป็นมายาและความหลอกลวง ปาร์มีนิเดสเแลยว่า ภาวะ เป็นแก่นแท้ของโลก เหตุนั้นภาวะจึงเป็นปฐมธาตุของสรรพสิ่ง ภาวะไม่เคยเปลี่ยนแปลง ภาวะไม่มีการเกิด ภาวะไม่มีการดับ เพราะมันจะต้องมีอยู่ตลอดไป ดังนั้น ภาวะจึงคงเป็นอยู่นิจนิรันดร์ เหมือนกับพระเจ้าในทัศนะของเซโนฟาเนส
-
ผลงานชิ้นเดียวที่เป็นที่รู้จักของปาร์เมนิดีสเป็นบทกวีที่มีชื่อเดิมไม่ทราบแน่ชัดแต่มักเรียกกันมีเพียงเศษเสี้ยวของบทกวีนี้เท่านั้นที่หลงเหลืออยู่ ในบทกวีของเขา ปาร์เมนิดีสถือเป็นผู้ก่อตั้งออนโทโลยีและมีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์ของปรัชญาตะวันตกยังถือเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนปรัชญาเอเลอาติกซึ่งรวมถึงเซโนแห่งเอเลอาและเมลิสซัสแห่งซามอสด้วยความขัดแย้งของการเคลื่อนไหวของเซโนได้รับการพัฒนาเพื่อปกป้องมุมมองของปาร์เมนิดีส ในปรัชญาสมัยใหม่ งานของปาร์เมนิดีสยังคงมีความเกี่ยวข้องในการอภิปรายเกี่ยวกับปรัชญาของเวลา
-
ได้รับการพัฒนา โดยมีศูนย์กลางอยู่บนหลักการแบ่งแยกอำนาจและการตรวจสอบและถ่วงดุล ยกเว้นในสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงของประเทศ สาธารณรัฐโรมัน มีผู้นำคนสำคัญ คือ จูเลียส ซีซ่า ซึ่งมีความสามารถด้านการรบมากสามารถแผ่ขยายอณาเขต รบชนะ กรีก อียิปต์ ส่วนการต่อสู้แบบกลาดิเอเตอร์ นักสู้ติดอาวุธที่มีหน้าที่ต่อสู้ ได้รับนิยมมากที่สุดในช่วง 100 ปีก่อนคริสต์ศักราชถึงคริสต์ศตวรรษที่ 2 จนเสื่อมความนิยมลงในช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 5
-
โรมันเริ่มต้นจากการเป็นสาธารณรัฐ (Republic) หลังจากโค่นล้มราชวงศ์อีทรัสกัน โดยในระยะนี้ โรมันเริ่มขยายดินแดนอย่างรวดเร็ว ทั้งในอิตาลีและต่างประเทศ และก่อตั้งสถาบันการปกครองที่เน้นการมีส่วนร่วมของพลเมือง เช่น วุฒิสภา และมีการแบ่งอำนาจระหว่างชนชั้นต่างๆ
-
เหรียญทองแดงขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๒ เซนติเมตร ด้านหน้าเป็นรูปจักรพรรดิซีซาร์ มาร์คุส พิอาโวนิอุส วิกโตรินุส เห็นพระพักตร์ด้านขวาของพระองค์ ทรงมงกุฎ และเสื้อเกราะ มีตัวอักษรภาษาละตินล้อมรอบอยู่ริมขอบเหรียญ เทพีแห่งสุขภาพและความสุขของยุคโรมัน ทรงสวมชุดแบบโรมันที่เรียกว่า ชุดสโทลา พบจากเมืองโบราณอู่ทอง มีการติดต่อค้าขายกับดินแดนที่อยู่ไกลออกไปทางตะวันตก โดยเฉพาะกับจักรวรรดิโรมัน ศูนย์กลางสำคัญของโลกยุคโบราณ โดยตรงหรือผ่านพ่อค้าชาวต่างชาติอื่น
-
ละครเน้นเรื่องโศกนาฏกรรม ละครกรีกยุคนั้นเชิงศิลปวัฒนธรรม เป็นการเรียนรู้ทางสังคม วัฒนธรรม ทั้งเรื่องจริยธรรม การเมือง ของพลเมืองชาวกรีก เค้าโครงเรื่องของบทละครโศกนาฎกรรมกรีกมักมาจากเรื่องเทพปกรณัม (เรื่องเทพเจ้าต่างๆ) และมหากาพย์อีเลียตและโอดิซุส กวีจะนำเรื่องของตัวละครเอกคนใดคนหนึ่งหรือเรื่องบางตอนมาเล่าใหม่ รวมทั้งจินตนาการต่อเติมใหม่ด้วยความคิด ท่วงทำนองและสำนวนภาษาของเขาเอง ทำให้เป็นบทละครโศกนาฏกรรมที่มีเนื้อหาที่มีลักษณะเฉพาะ เร้าใจ มีความงดงาม ความน่าสะพรึงกลัว ความเศร้าสะเทือนใจ
-
ความก้าวหน้าที่สำคัญในการสร้างภาพเหรียญเกิดขึ้นเมื่อจูเลียส ซีซาร์ออกเหรียญที่มีภาพเหมือนของเขาเอง ในขณะที่นักค้าเงินคนก่อนๆ ได้ออกเหรียญที่มีภาพเหมือนของบรรพบุรุษของพวกเขา แต่การผลิตเหรียญของซีซาร์ถือเป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์โรมันที่บุคคลยังมีชีวิตอยู่ได้รับการพรรณนา
-
โศกนาฏกรรมจึงเป็นการเลียนแบบ ของการกระทำอันสูงส่งและสมบูรณ์แบบ ซึ่งผ่านความเมตตากรุณาและความกลัวก่อให้เกิดการชำระล้างจิตใจ"ในขณะที่mimēsisหมายถึงการเลียนแบบกิจการของมนุษย์การชำระล้างจิตใจหมายถึงการชำระล้างจิตใจของผู้พบเห็น อย่างไรก็ตาม "การชำระล้างจิตใจ
-
เสา Ionic มีความละเอียดอ่อนกว่าเสา Doric โดยเสานี้มีลักษณะเด่นตรงส่วนบนที่มีการตกแต่งเป็นวงม้วน (volutes) มีฐานเสาที่ประณีตกว่าเสา Doric
ตัวอย่างในโรมัน: เสาแบบ Ionic มักใช้ในอาคารที่ต้องการความสง่างาม เช่น วิหาร Athena Nike ที่ได้รับการปรับใช้ในโรมันโบราณ -
ประชาธิปไตยของกรีกในช่วงเวลานั้น ประชาชนทุกคนจะมีสิทธิ์ทางการเมือง มีส่วนร่วมในการปกครอง และมีอำนาจอธิปไตยสูงสุด (ยกเว้น สตรี เด็ก และคนจากนครรัฐอื่นที่ไม่ใช่เอเธนส์) ประชาชนทุกคน สามารถเข้าร่วมกับการปกครองได้โดยตรงทว่าจำนวนของประชาชนที่มากจนเกิดไป ทำให้ประชาธิปไตยโดยตรง ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงนำไปสู่การพัฒนาเป็น "ประชาธิปไตยแบบมีผู้แทน" เพื่อใช้อำนาจในการปกครองแทน ซึ่งประชาธิปไตยในรูปแบบนี้ ถือได้ว่าเป็นต้นแบบสำคัญของระบอบประชาธิปไตยในปัจจุบัน
-
ระบบการปกครองที่ถูกใช้งานโดยมนุษย์มาตลอดสองพันปี อย่างน้อยนี่อาจเป็นสิ่งที่พวกเราเคยได้ร่ำเรียนมาในชั้นเรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ประชาธิปไตย กำเนิดมาจากกรีกโบราณจริง เพราะปัจจุบันมีนักโบราณคดีและนักวิชาการมากมายกำลังหาต้นตอของระบบการปกครองนี้ตามสถานที่ต่างๆ ที่เก่าแก่กว่ากรีกโบราณ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นภารกิจที่ท้าทาย เหตุผลคือสภาพสังคมและวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ยากต่อการสืบหาต้นตอสำหรับผู้คนที่ไม่มีบันทึกข้อมูลแบบลายลักษณ์อักษร
-
โรมันเลี้ยงวัว แพะ แกะ และสุกรเพื่อผลิตเนื้อ นม ขนสัตว์ และหนังสัตว์ นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงม้าเพื่อใช้ในการเดินทางและสงคราม
การเลี้ยงผึ้ง: น้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวานที่สำคัญในยุคโรมัน เนื่องจากพวกเขาไม่มีน้ำตาล -
Latifundia (ลาติฟันเดีย): เป็นฟาร์มขนาดใหญ่ที่ดินส่วนใหญ่เป็นของชนชั้นสูง ซึ่งมักใช้แรงงานทาสในการทำงานในไร่ ช่วยผลิตสินค้าจำนวนมากเพื่อส่งออกและสนับสนุนเศรษฐกิจโรมัน
วิธีการเพาะปลูก: โรมันใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การทำระเบียงบนพื้นที่ลาดชันเพื่อป้องกันการพังทลายของดิน และการหมุนเวียนพืชผลเพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน -
ตัวเลขโรมัน เป็นระบบตัวเลขที่ใช้ในโรมโบราณ และยังคงเป็นระบบตัวเลขที่ใช้งานทั่วยุโรปจนถึงสมัยกลางตอนปลาย ตัวเลขในระบบนี้แสดงเป็นการผสมตัวอักษรในอักษรละติน หลังการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน ยังคงมีการใช้งานตัวเลขโรมันต่อไปเป็นเวลานาน ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยตัวเลขอาหรับ บริเวณที่มักพบเห็นตัวเลขโรมันคือหน้าปัดนาฬิกา เช่น บนนาฬิกาของบิกเบน (ออกแบบใน ค.ศ. 1852) เส้นชั่วโมงจาก 1 ถึง 12
-
ธัญพืช (Grain): โรมันปลูกข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และข้าวโอ๊ต ธัญพืชเหล่านี้เป็นแหล่งอาหารหลักที่ใช้เลี้ยงประชากรและทหาร
มะกอก (Olive): ปลูกเพื่อผลิตน้ำมันมะกอก ซึ่งใช้ในการทำอาหารและเพื่อประโยชน์อื่น ๆ เช่น การใช้ในเครื่องหอมและตะเกียง
องุ่น (Grape): ใช้ผลิตไวน์ที่เป็นสินค้าสำคัญในโรมัน ไวน์ยังมีบทบาทสำคัญในพิธีกรรมทางศาสนาและการบริโภคในชีวิตประจำวัน
พืชผักและผลไม้: รวมถึงถั่ว พืชผักต่าง ๆ และผลไม้เช่น แอปเปิ้ล ลูกฟิก (มะเดื่อ) และลูกพลัม -
เริ่มจากการที่ ออกัสตุส (Augustus)
เป็นจักรพรรดิองค์แรก โดยเปลี่ยนรูป
แบบการปกครองจากสาธารณรัฐเป็น
จักรวรรดิอย่างไม่เป็นทางการ ระบบการปกครองจะยังคงใช้สถาบันซีเนตอยู่
บ้าง แต่จักรพรรดิจะมีอำนาจสูงสุด
จักรวรรดิในส่วนตะวันตกเริ่มอ่อนแอและล่มสลายในปี ค.ศ. 476 เมื่อ
จักรพรรดิองค์สุดท้ายคือ โรมุลุส ออกุส
ตุลุส (Romulus Augustulus) ถูกถอด
ออกจากอำนาจ ส่วนจักรวรรดิตะวันออก
ยังคงดำรงอยู่จนถึง ค.ศ. 1453 ในชื่อ
จักรวรรดิไบแซนไทน์ (Byzantine
Empire) -
เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งของอารยธรรมโรมันโบราณซึ่งปกครองโดยรูปแบบอัตตาธิปไตย จักรวรรดิโรมันได้สืบต่อการปกครองมาจากสาธารณรัฐโรมัน อิทธิพลของโรมันได้ส่งผลต่อการพัฒนาทางด้านภาษา ศาสนา สถาปัตยกรรม ปรัชญา กฎหมายและระบบการเมืองมาจนถึงทุกวันนี้
จักรวรรดิถูกแบ่งออกเป็นฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกในสมัยของจักรพรรดิไดโอคลีเชียน และถือว่าจักรวรรดิโรมันล่มสลาย -
ฮิปโปเครติส ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ผู้ให้กำเนิดวิชาแพทย์” หรือ “บิดาแห่งการแพทย์”เนื่องจากเป็นแพทย์คนแรกที่ได้ศึกษา ค้นคว้า นำวิธีการรักษาโรคแบบใหม่มาเผยแพร่ และมาใช้กับคนไข้ที่มารับการรักษาจากเขา ทั้งเป็นคนแรกที่ได้ปฏิรูปวงการแพทย์ วิธีการรักษาผู้ป่วยของฮิปโปเครตำราที่ใช้ในการรักษาโรคสืบต่อกันมา ในการรักษาโรคนั้น ฮิปโปเครติสจะใช้ยาที่รักษาผู้ป่วยที่เป็นยาที่ไม่รุนแรงและใช้เฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ประพฤติปฏิบัติต่อคนไข้ให้ถูกต้องตามหลักวิชาแพทย์อย่างเคร่งครัด “ปฏิญาณอันเป็นจริยธรรมของแพทย์”
-
เป็นแพทย์คนแรกที่ทำระเบียนบันทึกอาการและประวัติของคนไข้ วางกฎเกณฑ์วิธีการปฏิบัติของแพทย์ต่อคนไข้ ซึ่งยังคงถือปฏิบัติกันอยู่ถึงปัจจุบัน มีข้อมูลตกทอดมาถึงปัจจุบันน้อยมาก ต้นแบบของการแพทย์ในยุคโบราณ เป็นผู้ทำให้เกิดความ ก้าวหน้าอย่างมากใน มีการรวบรวมวิชาแพทย์ของคำสอนการแพทย์โบราณ และ สั่งสอนจริยธรรมแก่แพทย์โดยคำปฏิญาณของฮิปไปเครติส ด้วยการทดลองศึกษาโรคและร่างกายของสัตว์ เปรียบเทียบและนำมาประยุกต์ใช้กับมนุษย์ประกอบกับการกลายเป็นการไพทย์แบบกาเลน
-
ชาวกรีก ผู้ริเริ่มการแพทย์) ผู้ได้รับสมญาว่า เป็น "บิดาแห่งการแพทย์" เป็นคนแรกที่นำความรู้เกี่ยวกับโรคจิต เข้ามาสู่วงการแพทย์ ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ ๔ ก่อนคริสต์กาล เขากล่าวว่า "สมองเป็นที่ตั้งของจิตใจ" เขาไม่เชื่อว่า โรคจิตเกิดจากพระเจ้า หรือปีศาจ ในปัจจุบัน ผู้ป่วยโรคจิตส่วนมากได้รับการรักษาด้วยการใช้ยา ซึ่งมีมากมายหลายชนิด และส่วนมากมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการทางจิต นอกจากนี้ ยังมีวิธีการรักษาที่ทันสมัย ทำให้ผู้ป่วยหลายรายไม่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล สามารถอยู่ในชุมชนของเขาได้
-
ยังคงมีการใช้งานตัวเลขโรมันต่อไปเป็นเวลานาน ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยตัวเลขอาหรับตั้งแต่คริสต์ศตวรรษ 14 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และตัวเลขโรมันยังคงมีอยู่ในบางผลิตภัณฑ์จนถึงปัจจุบัน
บริเวณที่มักพบเห็นตัวเลขโรมันคือหน้าปัดนาฬิกา -
ครอบคลุมหลายแง่มุมของการแพทย์ ตั้งแต่ทฤษฎีทางการแพทย์ของฮิปโปเครติส ไปจนถึงสิ่งที่เขาคิดขึ้นเพื่อเป็นวิธีการทางการแพทย์ ไปจนถึงการรักษาโรคต่างๆ ฮิปโปเครติสเป็นผู้เริ่มต้นการพัฒนาการแพทย์ของสังคมตะวันตก ผ่านการผสมผสานอย่างละเอียดอ่อนระหว่างศิลปะการรักษาและการสังเกตทางวิทยาศาสตร์ สิ่งที่ฮิปโปเครตีสแบ่งปันจากผลงานของเขาไม่ใช่แค่การระบุอาการของโรคและการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องเท่านั้น เขากำลังพาดพิงถึงรูปแบบศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา "ศิลปะแห่งการใช้ชีวิตที่แท้จริงและศิลปะแห่งการแพทย์
-
เสา Corinthian เป็นเสาที่ประดับประดามากที่สุด โดยส่วนบนของเสาจะมีการแกะสลักเป็นรูปใบอะคันธัส (acanthus leaves) ซึ่งทำให้เสานี้ดูมีความงดงามและหรูหรา
ตัวอย่างในโรมัน: อาคารต่าง ๆ ของโรมัน เช่น Pantheon ก็ใช้เสาแบบ Corinthian ซึ่งเสานี้ได้รับความนิยมมากในยุคโรมันตอนปลาย -
การประกาศใช้ กฎหมายสิบสองโต๊ะ (Twelve Tables) ซึ่งถือเป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษรฉบับแรกของกรุง โรม กฎหมายนี้เป็นรากฐานของกฎหมายแพ่งและอาญาของอารยธรรมโรมัน และเป็นต้นแบบให้แก่กฎหมายสมัยใหม่ในยุโรป จารีตประเพณีบรรพชนผลของการต่อสู้ทางสังคมอันยาวนานระหว่างแพทริเซียนกับพลีเบียน หลังการขับทาร์ควิเนียส ซูเบอร์บัส พระมหากษัตริย์โรมพระองค์สุดท้าย แพทริเซียนเท่านั้นที่มีสิทธิ์เป็นฝ่ายปกครอง จึงเป็นเหตุที่พลีเบียนไม่พอใจ การสถาปนากฎหมายสิบสองโต๊ะ โดยสร้างสิทธิตามกระบวนการยุติธรรมพื้นฐานแก่พลเมืองโรมันทุกคน
-
โรมันมีกฎหมายมาตั้งแต่สมัยสาธารณรัฐ ในระยะแรกกฎหมายไม่ได้เขียนเป็นลายลักษณ์ การบังคับใช้ กฎหมายเป็นไปตามวินิจฉัยของผู้พิพากษาซึ่งเป็นกลุ่มชนชั้นสูง ดังนั้นพวกสามัญชนจึงเรียกร้องให้เขียนกฎหมายเป็นลายลักษณ์ ซึ่งต่อมาได้แกะสลักบนแผ่นไม้รวม 12 แผ่นเรียกว่า กฎหมายสิบสองโต๊ะ ความโดดเด่นของกฎหมายโรมันคือ ความทันสมัย เพราะมีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับโครงสร้างการปกครองที่เปลี่ยนเป็นระบอบจักรวรรดิและ ประชาชนทุกคนมีความเสมอภาคกันภายใต้กฎหมาย ซึ่งรวมถึงกระบวนการยุติธรรมที่ยึดเป็นแบบอย่าง
-
ประติมากรรมในยุคคลาสสิกมีการพัฒนาในเรื่องสัดส่วนและการแสดงอารมณ์ที่สมจริงมากขึ้น ท่วงท่าของประติมากรรมมีความเป็นธรรมชาติและแสดงถึงความงดงามตามอุดมคติของร่างกายมนุษย์ เช่น รูปปั้นของนักรบที่แสดงท่าการเคลื่อนไหว เช่น "Discobolus" (นักขว้างจักร) โดยประติมากร ไมรอน (Myron)
-
ศาสนาที่นับถือปฏิบัติในกรีซโบราณประกอบด้วยชุดความเชื่อ พิธีกรรมและประมวลเรื่องปรัมปรา เป็นความเชื่อแบบพหุเทวนิยม ชาวกรีกโบราณส่วนใหญ่รู้จักเทพเจ้าแห่งโอลิมปัส การบูชาเทพโอลิมปัส โดยเทพเหล่านี้มักมีฉายาที่พรรณนาถึงคุณลักษณะ รวมถึงสะท้อนการรับเทพท้องถิ่นเข้ามาในวัฒนธรรมของตน ศาสนากรีกโบราณเชื่อในโลกหลังความตายที่เป็นที่อาศัยของวิญญาณ เชื่อว่าเมื่อเสียชีวิต วิญญาณของผู้เสียชีวิตจะถูกส่งไปยังยมโลก วิญญาณผู้ทำดี ปรัชญากรีกโบราณมีแนวคิดการกลับชาติมาเกิดที่เรียกว่า เมเตมไซโคซิส
-
ศาสนากรีกโบราณไม่มีคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์หรือได้รับการถ่ายทอดจากพระเป็นเจ้า อย่างไรก็ตามวรรณกรรมกรีกโบราณที่เก่าแก่มาก ศาสนากรีกโบราณเชื่อในโลกหลังความตายที่เป็นที่อาศัยของวิญญาณ เนื่องจากชาวกรีกโบราณไม่มีคำว่า "ศาสนา" อย่างในความหมายสมัยใหม่ นอกจากนี้ไม่มีนักเขียนสมัยกรีกโบราณคนใดบรรยายการบูชาเทพหรือสิ่งเคารพว่าเป็นศาสนา
-
เพลโต เป็นนักปรัชญาชาวกรีกโบราณที่มีอิทธิพล เเป็นนักเขียน และเป็นผู้ก่อตั้งอาคาเดมีซึ่งเป็นสำนักวิชาในกรุงเอเธนส์ เพลโตใช้เวลาส่วนใหญ่สอนอยู่ที่อาคาเดมี แต่เขาก็ได้เขียนเกี่ยวกับปัญหาทางปรัชญาไว้เป็นจำนวนมาก ในช่วงการเคลื่อนไหวงานเขียนของเพลโตนั้นส่วนมากแล้วเป็นบทสนทนา คำคม และจดหมาย ผลงานที่เป็นที่รู้จักของเพลโตนั้นหลงเหลืออยู่ทั้งหมด ในบทสนทนาของเพลโลนั้น บ่อยครั้งที่มีโสกราตีสเป็นตัวละครหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความสับสนว่าความเห็นส่วนใดเป็นของโสกราตีส และส่วนใดเป็น
-
ในงานเขียนของเพลโต เราจะพบการโต้เถียงเกี่ยวกับรูปแบบของการปกครองทั้งแบบเจ้าขุนมูลนาย และแบบประชาธิปไตย เราจะพบการโต้เถียงเกี่ยวกับผลของสิ่งแวดล้อมกับผลของพันธุกรรม ต่อสติปัญญาและอุปนิสัยของมนุษย์ ซึ่งการโต้เถียงนี้เกิดขึ้นมานานก่อนการโต้เถียงเรื่อง "ธรรมชาติหรือการเลี้ยงดู" ที่มีขึ้นในช่วงเวลาของฮอบบส์ และล็อก และยังมีผลต่อเนื่องมาถึงงานเขียนที่ก่อให้เกิดการโต้แย้งเช่นหนังสือ The Mismeasure of Man
-
วิหารแอสเคลปิออน (Asclepion)
วิหารแอสเคลปิออนเป็นสถานที่รักษาผู้ป่วยซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างการแพทย์และศาสนา ผู้ป่วยจะมาอธิษฐานขอการรักษาจากเทพแอสเคลปิออส (Asclepius) เทพแห่งการรักษา ที่วิหารเหล่านี้ผู้ป่วยจะนอนพักและเฝ้าดูความฝัน ซึ่งเชื่อว่าเทพเจ้าจะส่งสัญญาณวิธีการรักษา แม้ว่าจะดูเหมือนการรักษาด้วยความเชื่อ แต่วิหารแอสเคลปิออนยังมีการใช้การแพทย์ที่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ โดยมีแพทย์ดูแลผู้ป่วยและให้คำแนะนำด้านการรักษา -
งานโมเสก เป็นงานศิลปะที่นิยมทำกันมากในสมัยโบราณภายในที่อยู่อาศัย งานโมเสกที่เก่าที่สุดชิ้นที่วังมาซิโดเนียที่เมืองเอเจีย ที่พบเป็นงานตกแต่งพื้นคฤหาสน์แบบกรีก, และงานตกแต่งที่อยู่อาศัยที่หรูหราของชาวโรมันตั้งแต่อังกฤษไปจนทั่วยุโรปและแอฟริกา ในกรุงโรมเอง จักรพรรดิเนโรทรงใช้โมเสกในการตกแต่งผนังและเพดานของ “Domus Aurea” ชาวกรีกยังสร้างผลงานศิลปะด้วยเทคนิคโมเสก (Mosaic) โดยใช้หินหรือแก้วเล็ก ๆ มาปะติดปะต่อกันเป็นภาพที่สวยงาม โมเสกของกรีกส่วนใหญ่เป็นภาพจากตำนานเทพเจ้าและฉากชีวิตประจำวัน
-
เทพครึ่งคนครึ่งเทพคนแรกในตำนานเทพเจ้ากรีก[ 1 ]แอสเคลเปียสได้รับการกล่าวขานว่าเป็นแพทย์ที่มีทักษะมากจนสามารถปลุกคนจากความตายได้ ตำนานเกี่ยวกับพลังการรักษาอันยิ่งใหญ่ของเขา ผู้แสวงบุญจึงแห่กันไปยังวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เขาเพื่อแสวงหาการรักษาทางจิตวิญญาณและทางกาย ในเมืองทริกกา (ปัจจุบันคือเมืองทริคาลา)เมืองเทสซาลีประเทศกรีซนักปราชญ์ในตำนานโบราณมักถือว่าทริกกาเป็นสถานที่เกิดของแอสเคลเปียส
-
เป็นงานศิลปะที่นิยมทำกันมากในสมัยโบราณภายในที่อยู่อาศัย งานโมเสกที่เก่าที่สุดชิ้น และงานตกแต่งที่อยู่อาศัยที่หรูหราของชาวโรมันตั้งแต่อังกฤษไปจนทั่วยุโรปและแอฟริกา ในกรุงโรมเอง จักรพรรดิเนโรทรงใช้โมเสกในการตกแต่งผนังและเพดานของ “Domus งานโมเสกที่คฤหาสน์โรมานาเดล
-
ถนนโรมันได้รับการออกแบบ ตัดถนนเป็นเส้นตรงผ่านไปตามพื้นที่ในชนบท ช่างสำรวจ โกรมาติชี ประกอบด้วยหินที่ทุบเป็นก้อน ๆ หรือกรวดกับซีเมนต์ที่ผสมจากหินปูน สุดท้ายเป็นผิวถนนที่ใช้กรวด หินแม่น้ำ ก้อนแร่เหล็กหรือหินภูเขาไฟที่แข็งตัวแล้วมาเรียงเข้าด้วยกันกันอย่างประณีต ผิวถนนจะทำให้โค้งโดยมีร่องให้น้ำระบายออกไปข้าง ๆ ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม
-
โดยนาฬิกาน้ำอันแรกของโลกถูกสร้างขึ้นโดย
วิศวกรชาวกรีกที่มีชื่อว่า ซีเทสซีบิอุส โดยจะมีรูปจำลองรูปคนยืนถือหอกชี้ไปที่เสาที่อยู่ด้านหน้า
โดยที่ข้างใต้ตัวรูปจำลองมีแอ่งน้ำแคบลึกเล็กๆ ที่
บรรจุน้ำอยู่ด้านล่าง และมีท่อรูปตัว U กลับหัวเล็กยาวเชื่อมต่อไปยังกังหันน้ำที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งตัว กังหันน้ำนี้ก็จะเชื่อมต่อกับเฟืองชุดหนึ่งที่เชื่อมต่อ กับเฟืองฐานเสาด้านล่าง ต้องคำนวณปริมาณน้ำและน้ำหนักของรูปปั้นที่กดลงและจะทำให้น้ำไหลลงไปยังกังหันน้ำเป็นปริมาณที่พอดี และต้องไหลลงไปในปริมาณพอดีกับเวลาที่กำหนดด้วย -
ชาวกรีกได้พัฒนานาฬิกาน้ำอย่างมากโดยแก้ปัญหาการไหลที่ลดลง พวกเขาได้แนะนำคลีปไซดราแบบไหลเข้าหลายประเภท ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงระบบควบคุมป้อนกลับในยุคแรก Ctesibiusได้คิดค้นระบบบอกเวลาแบบทั่วไปสำหรับนาฬิกาในยุคหลัง ๆ เช่น หน้าปัดและเข็มชี้ วิศวกรชาวโรมันได้บรรยายถึงนาฬิกาปลุกในยุคแรก ๆ ที่ใช้เสียงก้องหรือแตรนาฬิกาน้ำที่ใช้กันทั่วไปคือคลีปไซดราแบบไหลออก ภาชนะดินเผาขนาดเล็กนี้มีรูที่ด้านข้างใกล้กับฐาน ในสมัยกรีกและโรมัน คลีปไซดราประเภทนี้ใช้ในศาลเพื่อจัดสรรเวลาให้กับผู้พูด
-
มหารูปแห่งโรดส์ เป็นเทวรูปขนาดใหญ่ของเทพฮีลิออส หรือ อพอลโล เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก จัดอยู่ในยุคเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุค
โบราณ ร่วมสมัยกับประภาคารฟาโรสแห่งอเล็ก
ซานเดรีย สร้างมาจากสำริด เป็นเทวรูปของสุริยเทพอพอลโล ซึ่งเป็นหนึ่งในเทวสภาโอลิมปัส มหารูปนี้สร้างขึ้นโดย ชาเรสแห่งลินดอส ซึ่งเป็นประติมากรชาวกรีก -
แพทย์กรีกชื่อ Galen ได้รับการปลูกฝังให้มีความสนใจในด้านภาษาและวรรณคดีของกรีก ซึ่งถือเป็นค่านิยมของสังคมชั้นสูง แพทย์กาเล็นจึงตัดสินใจจากบ้านเกิดที่เมืองเปอร์กามอนอันเป็นที่รักและผูกพัน ออกเดินทาง เพื่อหาโรงเรียนแพทย์ที่จะพัฒนาความรู้ทางการแพทย์ เพราะความรู้จากการเรียนแพทย์ที่บ้านเกิดของตนนั้นคงไม่พอ เขาควรได้รับการศึกษาจากสถาบันทางการแพทย์ที่มีเสียงของประเทศต่างๆ เพื่อเป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญจริงๆ
-
สะพานโรมันเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรม สะพานเหล่านี้สร้างด้วยหินและมีการใช้เทคโนโลยี arch หรือซุ้มโค้ง ซึ่งเพิ่มความแข็งแรงและเสถียรภาพ
-
เป็นสนามแข่งรถม้าของโรมันโบราณ เป็นสถานที่ที่น่าทึ่งในประวัติศาสตร์ และได้รับการต่อเติมและปรับปรุงใหม่หลายครั้งตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา สนามกีฬาแห่งนี้น่าตื่นตาตื่นใจ มีทั้งการแข่งขันรถม้าศึก ขบวนแห่ทางศาสนา และแม้แต่การต่อสู้ทางเรือจำลอง เป็นสถานที่ที่ผู้คนจากทุกสาขาอาชีพมารวมตัวกันเพื่อเชียร์ทีมโปรด แสดงให้เห็นความหลงใหลและความบ้าดีเดือดในแบบโรมัน
-
ชาวโรมันใช้เครื่องประดับอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง เครื่องประดับส่วนใหญ่ทำจากทองคำ เงิน และอัญมณีต่าง ๆ
แหวน (Rings): สวมใส่โดยทั้งชายและหญิง เป็นสัญลักษณ์ของสถานะทางสังคมและใช้ในพิธีแต่งงาน
กำไล (Bracelets): สวมใส่ที่ข้อมือหรือแขน นิยมทำจากทองคำหรือเงิน
สร้อยคอ (Necklaces): ผู้หญิงชนชั้นสูงนิยมสวมใส่สร้อยคอที่ประดับด้วยอัญมณี
ต่างหู (Earrings): นิยมในหมู่ผู้หญิง มีตั้งแต่แบบเรียบง่ายไปจนถึงแบบประดับอัญมณีหรูหรา -
ยุคนี้ประติมากรรมกรีกมีความซับซ้อนและแสดงถึงอารมณ์ที่รุนแรงมากขึ้น การแสดงท่วงท่าที่หลากหลายและการสร้างสรรค์ประติมากรรมที่มีรายละเอียดที่ละเอียดลออ ที่แสดงถึงความทุกข์ทรมานของตัวละครในตำนาน ประติมากรรมเหมือนของชายและหญิงทุกวัยก็เริ่มสร้างกันขึ้นและประติมากรก็มีอิสระพอที่สร้างงานที่ไม่จำเป็นต้องมีลักษณะที่มีร่างกายหรือความงามที่พร้อมสรรพอย่างอุดมคติ ประติมากรรมชายกรีกส่วนใหญ่จะวางท่ายืนเอียงเพื่อต้องการที่จะแสดงสรีระที่มีความใกล้เคียงกับความงามของเทพเจ้า
-
ปีค.ศ.: ตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช (ก่อน ค.ศ. 100)
โรมันพัฒนาเทคโนโลยีการต่อเรือเพื่อใช้ในการเดินเรือทั้งในสงครามและการค้าขาย โดยมีทั้งเรือรบที่ใช้ในการปกป้องอาณาจักรและเรือพาณิชย์ที่ใช้ในการขนส่งสินค้า
ตัวอย่าง: Trireme เป็นเรือรบที่มีแถวพายสามแถว เริ่มใช้ในช่วงศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราช -
เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 อัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายวัด มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่าง ๆ ในปัจจุบัน ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 10 ปี
-
เรือพาณิชย์ เป็นพาหนะทางน้ำที่บรรทุกสินค้า และเรือเดินสมุทร ซึ่งใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหารเรือพาณิชย์มีขนาดและรูปร่างมากมาย ตั้งแต่เรือดำน้ำเป่าลม แล่นไปตามแม่น้ำมิสซิสซิปปี ไปจนถึงเรือลากจูง ที่แล่นไปตามท่าเรือนิวยอร์ก กองเรือเหล่านี้จึงมีหลายกรณีที่แล่นเรือภายใต้ธงของประเทศที่เชี่ยวชาญในการจัดหากำลังคนและบริการในเงื่อนไขที่ดี ธงเพื่อความสะดวก เรือกรีกมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้ปัจจุบันเป็นกองเรือพาณิชย์ระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่าจะไม่ใช่กองเรือที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
-
สมัยที่ จูเลียส ซีซาร์ ครองอำนาจในกรุงโรม ได้มีคำสั่งให้มีการปรับแก้ปฏิทินโรมันแบบเดิมให้เป็นแบบสุริยคติแบบอิยิปต์ ซึ่งว่ากันว่า คลีโอพัตรา เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการผลักดันแก้ไขปฏิทิน เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าชนชาติอียิปต์มีความเชี่ยวชาญทางด้านดาราศาสตร์ชั้นสูงในตอนนั้น แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ปฏิทินจูเลียน คือต้นแบบของ ปฏิทินเกรกอเรียน ปฏิทินอังกฤษ หรือ ปฏิทินสากล ที่ผู้คนทั่วโลกใช้บอกเวลาขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 เดือนมกราคมของทุกปี ซึ่ง January
-
ชาวโรมันมีการประดับผมด้วยเข็มกลัด หวี หรือเครื่องประดับผมที่ทำจากทองหรือเงิน ผู้หญิงชนชั้นสูงมักมีทรงผมที่ซับซ้อนและประดับด้วยเครื่องประดับศีรษะอย่างประณีต
-
เป็นสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่ในกรุงโรม เดิมสร้างโดยมาร์คัส วิพซานิอัส อกริพพาสำหรับเป็นเทวสถาน สำหรับเทพต่างๆ ของโรมันโบราณ โรมันโบราณ จะอุทิศให้แก่เทพเท่าใดนั้นก็ยังคงเป็นเรื่องที่โต้แย้งกันอยู่ คำว่า “แพนธีอัน” โดยทั่วไปในปัจจุบันหมายถึงอนุสาวรีย์ที่เป็นที่เก็บศพของคนสำคัญ แพนธีอัน ศาสนสถานของโรมันคาทอลิก ที่อุทิศให้ “พระแม่มารีและผู้พลีชีพเพื่อศาสนา” ตัวตึกเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีโดมขนาดใหญ่ที่เก่าที่สุดในกรุงโรม ความสูงของช่องตา
-
กาเล็น เป็นแพทย์ชาวโรมันเชื้อสายกรีกซึ่งเขามีอิทธิพล ได้รับการปลูกฝังให้มีความสนใจในด้านภาษาและวรรณคดีของกรีก ซึ่งถือเป็นค่านิยมของสังคมชั้นสูงในสมัยนั้น และบิดายังเป็นผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ เรขาคณิต ดาราศาสตร์ ธรรมชาติวิทยา และอธิบายการทำงานของร่างกายมนุษย์ เช่น การไหลเวียนของเลือดและการทำงานของระบบประสาท
-
เสรีนิยม (อังกฤษ: liberalism) เป็นปรัชญาการเมืองหรือมุมมองทางโลกซึ่งตั้งอยู่บนความคิดเสรีภาพและความเสมอภาค นักเสรีนิยมยอมรับมุมมองหลากหลายขึ้นอยู่กับความเข้าใจหลักการเหล่านั้น แต่โดยทั่วไปสนับสนุนความคิดอย่างเสรีภาพในการพูด เสรีภาพสื่อ เสรีภาพทางศาสนา ตลาดเสรี สิทธิพลเมือง รัฐบาลฆราวาส ความเสมอภาคทางเพศ และ การร่วมมือ ...
-
ชื่อคอรินเทียนมาจากเมืองกรีกโบราณ โครินธ์ ถึงแม้ว่าการออกแบบจะมีตัวอย่างจากเสาแบบโรมันตามการออกแบบเสาในวิหารแห่งเทพมาส์ ในฟอรัมกัสตัส ยังมีการใช้รูปแบบเสาในทางตอนใต้ของกอลในวิหารโรมันโบราณ Maison Carrée ในเมืองนีมส์ และที่วิหารโพเดียมในเมืองเวียนของฝรั่งเศส ตัวอย่างสำคัญอื่น ๆ คือเสาด้านล่างของมหาวิหารยูเปีย และซุ้มประตูที่โคนา (ทั้งในรัชสมัยของจักรพรรดิตรายานุส
-
เรือรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 (World war 2) ช่วงระหว่าง ค.ศ.1936-1945 ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเป็นช่วงที่มหาอำนาจของโลกทำสงครามกัน ส่วนมากจะใช้เรือดำน้ำ เรือประจัญบาน เป็นหลักรวมถึงการใช้เรือบรรทุกเครื่องบินด้วย การโจมตีโดยใช้การเล็งอาจไม่แม่นยำ เท่าการใช้เรดาร์ ยุค
นี้เรือหลาย ๆ ลำใช้เรดาร์จับศัตรู ช่วยในพิกัดการเล็ง การโจมตีทางอากาศเริ่มมีบทบาทกับเรือมาก ขึ้น เครื่องบินสามารถปล่อยตอร์ปิโดโจมตีเรือให้ล่มได้ เจ้าแห่งการเดินสมุทร ยังคงเป็นอังกฤษ ตาม ด้วยเยอรมัน และสหรัฐ