อารยธรรมจีน

  • 2100 BCE

    ราชวงศ์เซี่ย

    ราชวงศ์เซี่ย
    มีอายุอยู่ได้ราว 500 ปี ในอดีตนักวิชาการและบุคคลโดยทั่วไปเชื่อว่าเรื่องราวของราชวงศ์เซี่ยเป็นเพียงเรื่องแต่งหรือปรัมปราที่เล่าสืบต่อกันมา แต่ปัจจุบันมีการขุดค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีที่เชื่อถือได้
  • 1700 BCE

    ราชวงศ์ชาง

    ราชวงศ์ชาง
    ปกครองดินแดนแถบแม่น้ำเหลืองเมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล บางครั้งเรียกว่า "ราชวงศ์อิน" (Yin Dynasty) ราชวงศ์นี้เป็นยุคแห่งไสยศาสตร์โดยแท้ นิยมการเสี่ยงทายด้วยกระดองเต่ากันมาก จากหลักฐานที่ขุดได้ พบเป็นแผ่นจารึกตัวอักษรโบราณ และเศษกระดองเต่า มีรอยแตกอยู่ทั่วไป
  • 1636 BCE

    ราชวงศ์ชิง

    ราชวงศ์ชิง
    ราชวงศ์ชิงไม่ได้ก่อตั้งโดยชาวฮั่นซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ของประเทศจีน แต่เป็นชาวแมนจูซึ่งอาศัยอยู่ในเขตแมนจูเรีย ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐประชาชนจีนในปัจจุบัน ในสมัยนั้น ชาวแมนจูเป็นเพียงชนกลุ่มน้อยเร่ร่อนทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งยังไม่มีคนรู้จักมากนั้น ในช่วงที่ราชวงศ์หมิงของชาวจีนฮั่นอยู่ในสภาพอ่อนแอ เกิดจลาจลและการเมืองไร้เสถียรภาพ
  • 1368 BCE

    ราชวงศ์หยวน

    ราชวงศ์หยวน
    ชาวมองโกลได้เข้ายึดครองภาคเหนือของจีนเป็นเวลากว่าทศวรรษ ได้มีความพยายามเปลี่ยนเป็นจีน ตั้งแต่สมัย มองเกอ ข่าน พระเชษฐาของกุบไลข่าน แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่งในสมัยของกุบไลข่าน ในปี ค.ศ. 1271 เมื่อมองโกลโค่นราชวงศ์ซ่งลงได้สำเร็จและยึดครองดินแดนจีนได้ทั้งหมด กุบไลข่านได้ประกาศตั้งราชวงศ์แบบจีนขึ้นอย่างเป็นทางการ
  • 1368 BCE

    ราชวงศ์หมิง

    ราชวงศ์หมิง
    ราชวงศ์หมิงเป็นราชวงศ์ที่รุ่งเรืองในด้านวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก ในยุคนี้มีการสำรวจทางทะเลอย่างกว้างขวาง ราชวงศ์หมิงในตอนต้น (1368 - 1464) ถือเป็นอาณาจักรที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก ณ ช่วงเวลานั้น ราชวงศ์หมิงถือเป็นหนึ่งในยุคที่ถูกจัดโดยนักวิชาการชาวตะวันตกว่ามีการปกครองที่เป็นระบบและสังคมที่มีเสถียรภาพในประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติก่อนที่จะล่มสลาย ราชวงศ์หมิงถือเป็นราชวงศ์ที่ปกครองประเทศจีนราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองโดยชาวฮั่น[2]
  • 1046 BCE

    ราชวงศ์โจว

    ราชวงศ์โจว
    เป็นราชวงศ์สุดท้ายในยุคราชวงศ์โบราณ แบ่งยุคเป็น 2 ช่วงราชวงศ์ คือราชวงศ์โจวตะวันตก และราชวงศ์โจวตะวันออกแนวความคิดด้านการปกครอง เชื่อว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นโอรสแห่งสวรรค์ สวรรค์มอบอำนาจให้มาปกครองมนุษย์เรียกว่า “อาณัตแห่งสวรรค์” เริ่มต้นยุคศักดินาในประเทศจีน กำเนิดลัทธิขงจื๊อ โดยขงจื๊อ และลัทธิเต๋า โดยเล่าจื๊อ ซึ่งคำสอนทั้งสองลัทธิเป็นที่พึ่งทางใจของประชาชน
    - ตำราพิชัยสงครามซุนจื่อ โดยซุนวู
  • 618 BCE

    ราชวงศ์ถัง

    ราชวงศ์ถัง
    ราชวงศ์ถัง (จีน: 唐朝[a]) หรือ จักรวรรดิถัง เป็นราชวงศ์ของจีนที่ปกครองตั้งแต่ ค.ศ. 618 ถึง ค.ศ. 907 โดยในช่วงสั้น ๆ ระหว่าง ค.ศ. 690 ถึง ค.ศ. 705 ราชวงศ์อู่โจวได้เข้ามาแทนที่การปกครองของราชวงศ์ถัง ราชวงศ์ถังสืบเนื่องต่อจากราชวงศ์สุยและสิ้นสุดลงเป็นยุคห้าราชวงศ์และสิบอาณาจักร นักประวัติศาสตร์มักมองว่าราชวงศ์ถังเป็นจุดสูงสุดของอารยธรรมจีน และเป็นยุคทองของวัฒนธรรมสากล[7] ดินแดนของราชวงศ์ถังที่ได้มาจากการต่อสู้ทางทหารในช่วงต้น เทียบได้กับดินแดนของราชวงศ์ฮั่น
  • 518 BCE

    ราชวงศ์สุย

    ราชวงศ์สุย
    ราชวงศ์สุย เป็นราชวงศ์ที่ทรงอำนาจทางการทหารแต่มีระยะเวลาการปกครองที่ค่อนข้างสั้น สถาปนาขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1124 ภายหลังจากยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ โดยจักรพรรดิสุยเหวิน อดีตแม่ทัพแห่งราชวงศ์โจวเหนือ โดยในรัชกาลของพระองค์ทรงสามารถรวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นปึกแผ่นอีกครั้ง มีนครฉางอันเป็นเหมืองหลวงระหว่าง พ.ศ. 1124 - พ.ศ. 1148
  • 266 BCE

    ราชวงศ์จิ้น

    ราชวงศ์จิ้น
    ในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์นี้มีอยู่สองช่วงเวลาหลัก จิ้นตะวันตก(ค.ศ. 266 - ค.ศ. 316) ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในฐานะรัฐที่สืบทอดต่อจากวุยก๊กหรือรัฐเฉาเว่ย์ ภายหลังจากที่สุมาเอี๋ยนทำการแย่งชิงราชบังลัก์จากพระเจ้าโจฮวน ราชธานีของจิ้นตะวันตกนั้นช่วงแรกอยู่ในลั่วหยาง(ลกเอี๊ยง) แม้ว่าภายหลังจะมีการย้ายไปที่ฉางอัน(ซีอาน มณฑลส่านซีในปัจจุบัน) ใน ค.ศ. 280 ภายหลังจากพิชิตง่อก๊กหรือรัฐอู๋ตะวันออกลงได้ จิ้นตะวันตกได้รวมแผ่นดินจีนเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง
  • 221 BCE

    ราชวงศ์ฉิน

    ราชวงศ์ฉิน
    ราชวงศ์ฉินพยายามสร้างรัฐที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันโดยการรวมศูนย์อำนาจการเมืองและกองทัพขนาดใหญ่สนับสนุนโดยเศรษฐกิจที่มั่นคง[3] ราชสำนักได้ปลดชนชั้นสูงและเจ้าของที่ดินเพื่อควบคุมการบริหารชาวบ้านได้โดยตรงผู้ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่และเป็นกำลังแรงงาน โครงการที่มีความทะเยอทะยานนี้เกี่ยวข้องกับชาวบ้านและนักโทษสามแสนคน
  • 220 BCE

    สามก๊ก

    สามก๊ก
    ยุคสามก๊กเป็นยุคที่นองเลือดที่สุดยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน[3] การสำรวจสำมะโนประชากรทั่งประเทศในปี ค.ศ. 280 หลังการรวบรวมสามก๊กเป็นหนึ่งเดียวภายใต้การปกครองของราชวงศ์จิ้นระบุมีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 2,459,840 ครัวเรือนและจำนวนประชากรทั้งหมด 16,163,863 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยลงอย่างมากเมื่อเทียบกับจำนวน 10,677,960 ครัวเรือนและ 56,486,856 คนที่สำรวจเมื่อยุคราชวงศ์ฮั่น[4] แม้ว่าการสำรวจสำมะโนประชากรในปี ค.ศ. 280 อาจจะได้จำนวนที่ไม่เที่ยงตรง
  • 202 BCE

    ราชวงศ์ฮั่น

    ราชวงศ์ฮั่น
    ในช่วงเวลา7ปีที่จักรพรรดิฮั่นเกาจู่ครองราชย์ ได้เสริมสร้างการปกครองรวมศูนย์อำนาจรัฐ กำหนดนโยบายทางการเมืองที่"ผ่อนภาระหน้าที่ ประชาชน"จำนวนหนึ่งเพื่อเสริมสร้างการปกครองของตนให้มั่นคง ในปี159ก่อนค.ศ. จักรพรรดิฮั่นเกาจู่ถึงแก่สวรรคต จักรพรรดิฮั่นฮุ่ยตี้รับช่วงตำแหน่งจักรพรรดิต่อ แต่ขณะนั้น อำนาจตกอยู่ในมือของพระนางลวี่จื้อพระมเหสีของจักรพรรดิฮั่นเกาจู่ พระมเหสีลวี่จื้อได้ครองอำนาจอยู่นาน16ปี นับเป็นผู้ปกครองหญิงในประวัติศาสตร์จีนที่มีเพียงไม่กี่คน
  • 200 BCE

    ลุ่มแม่น้ำฮวงโห

    ลุ่มแม่น้ำฮวงโห
    พบความเจริญที่เรียกว่า วัฒนธรรมหยางเชา ( Yang Shao Culture ) พบหลักฐานที่เป็นเครื่องปั้นดินเผามีลักษณะ สำคัญคือ เครื่องปั้นดินเผาเป็นลายเขียนสี มักเป็นลายเรขาคณิต พืช นก สัตว์ต่างๆ และพบใบหน้ามนุษย์สีที่ใช้เป็นสีดำหรือสีม่วงเข้ม นอกจากนี้ยังมีการพิมพ์ลายหรือขูดสลักลายเป็นรูปลายจักสานลายเชือกทาบ
  • 420

    ราชวงศ์เหนือ-ใต้

    ราชวงศ์เหนือ-ใต้
    ยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ (อังกฤษ: Northern and Southern dynasties) เป็นยุคใน ประวัติศาสตร์จีน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 420 ถึงปี ค.ศ. 589 ตามยุคที่วุ่นวายของ สิบหกแคว้น และ ห้าเผ่าคนเถื่อน
  • 960

    ราชวงศ์ซ่ง

    ราชวงศ์ซ่ง
    ราชวงศ์ซ่ง ตามสำเนียงกลาง หรือ ซ้อง ตามสำเนียงฮกเกี้ยน เป็นราชวงศ์ของจีนที่ปกครองระหว่างปี 960 ถึง 1279 ราชวงศ์นี้ก่อตั้งโดยจักรพรรดิซ่งไท่จู่ ผู้ซึ่งแย่งชิงบัลลังก์จากราชวงศ์โจวยุคหลังและไปพิชิตส่วนที่เหลือของสิบอาณาจักร สิ้นสุดยุคห้าวงศ์สิบรัฐ ราชวงศ์ซ่งมักขัดแย้งกับราชวงศ์เหลียว ราชวงศ์เซี่ยตะวันตก
  • สาธารณะรัฐจีน

    สาธารณะรัฐจีน
    ต้นกำเนิดของสาธารณรัฐประชาชนสามารถสืบได้ถึงสาธารณรัฐโซเวียตจีนที่ประกาศใน ค.ศ. 1931 ที่รุ่ยจิน มณฑลเจียงซี โดยได้รับการสนับสนุนจากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพทั้งมวลในสหภาพโซเวียต[2][3] ในช่วงสงครามกลางเมืองจีนต่อรัฐบาลชาตินิยม แต่กลับยุบเลิกใน ค.ศ. 1937[4]