-
(ประมาณ 4500 ปีก่อนคริสตกาล)
เมืองในอารยธรรมสุเมเรียน เช่น เออร์และอูรุก เป็นศูนย์กลางแห่งการพัฒนาการเกษตรและการค้า -
ชาวสุเมเรียนพัฒนาระบบการชลประทานในดินแดนเมโสโปเตเมีย ทำให้การเพาะปลูกในพื้นที่แห้งแล้งเป็นไปได้ นำไปสู่การเจริญเติบโตทางการเกษตรและการตั้งถิ่นฐานถาวร สร้างฐานรากให้เกิดการพัฒนาของอารยธรรม
-
การก่อตั้งเมืองสุเมเรียน เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์อารยธรรมโบราณ โดยเกิดขึ้นในช่วง ประมาณ 4500–4000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ในบริเวณเมโสโปเตเมียตอนใต้ (ปัจจุบันคือประเทศอิรัก)
-
การกำเนิดของอารยธรรมสุเมเรียน ถือเป็นหนึ่งในอารยธรรมแรกเริ่มของโลก ซึ่งเกิดขึ้นในบริเวณที่เรียกว่า เมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) ในช่วงเวลาประมาณ 4500–4000 ปีก่อนคริสต์ศักราช พื้นที่นี้ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำไทกริสและยูเฟรทีส (ปัจจุบันคือประเทศอิรัก) ซึ่งทำให้เกิดแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์และเอื้อต่อการทำเกษตรกรรมและการตั้งถิ่นฐานถาวร
-
การพัฒนาระบบการชลประทานในเมโสโปเตเมีย เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่นำไปสู่การเจริญรุ่งเรืองของอารยธรรมโบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อารยธรรมสุเมเรียน (Sumerian Civilization) ที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่ราบลุ่มระหว่างแม่น้ำไทกริสและยูเฟรทีส (Mesopotamia) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีฝนตกน้อยและเป็นทะเลทราย การพัฒนาระบบการชลประทานช่วยให้ชาวสุเมเรียนสามารถใช้ประโยชน์จากน้ำแม่น้ำเพื่อทำการเกษตรและสร้างอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
-
เมืองแรกในโลกเกิดขึ้นที่เมโสโปเตเมีย พัฒนาเกษตรกรรม การเขียน และการบริหารที่ซับซ้อน
-
(ประมาณ 3400 ปีก่อนคริสตกาล)
ชาวสุเมเรียนคิดค้นการเขียนด้วยลิ่มสลัก ถือเป็นหนึ่งในระบบการเขียนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก -
การประดิษฐ์อักษรลิ่ม (Cuneiform) ของชาวสุเมเรียนเกิดขึ้นในช่วง ประมาณ 3400 ถึง 3000 ปีก่อนคริสตกาล ถือเป็นหนึ่งในระบบการเขียนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ชาวสุเมเรียนเริ่มพัฒนาอักษรลิ่มจากการเขียนภาพสัญลักษณ์เพื่อบันทึกข้อมูลทางการค้าและการบริหาร ก่อนที่จะพัฒนาเป็นระบบการเขียนที่ซับซ้อนขึ้น
-
(ประมาณ 3100 ปีก่อนคริสตกาล)
พระเจ้าเมเนสหรือนาเมอร์รวมอียิปต์ตอนบนและตอนล่างเป็นอาณาจักรเดียวกัน -
3100 ปีก่อนคริสต์ศักราช – การรวมอียิปต์ตอนบนและตอนล่าง
ฟาโรห์เมเนสรวมสองอาณาจักรกลายเป็นอาณาจักรอียิปต์โบราณ -
การก่อตั้งราชวงศ์แรกของอียิปต์ (First Dynasty) เริ่มต้นใน ประมาณปี 3100 ปีก่อนคริสตกาล โดยพระเจ้าเมเนส (หรือที่รู้จักกันในชื่อ นาเมอร์) ซึ่งรวมอียิปต์ตอนบนและตอนล่างเข้าด้วยกันเป็นอาณาจักรเดียวกัน ราชวงศ์แรกดำเนินต่อเนื่องจนถึง ประมาณปี 2890 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อสิ้นสุดการปกครองของราชวงศ์นี้และเริ่มต้นราชวงศ์ที่ 2
-
3000 ปีก่อนคริสต์ศักราช – การพัฒนาอักษรลิ่มในสุเมเรียน
ระบบการเขียนแรกสุดที่รู้จัก ใช้ในการบันทึกทางการค้าและศาสนา -
(ประมาณ 3000 ปีก่อนคริสตกาล)
เมืองในอารยธรรมสุเมเรียน เช่น เออร์และอูรุก เป็นศูนย์กลางแห่งการพัฒนาการเกษตรและการค้า -
(ประมาณ 2580–2560 ปีก่อนคริสตกาล)
พีระมิดของกษัตริย์คูฟูที่กิซ่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ -
การสร้างพีระมิดแห่งกิซ่า ซึ่งรวมถึงพีระมิดของกษัตริย์คูฟู (หรือฟาโรห์คูฟู) เริ่มต้นขึ้นใน ประมาณปี 2580 ปีก่อนคริสตกาล และแล้วเสร็จใน ประมาณปี 2560 ปีก่อนคริสตกาล พีระมิดของคูฟูเป็นพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดในสามพีระมิดที่กิซ่าและถือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ
-
(ประมาณ 2100 ปีก่อนคริสตกาล)
ซิกกูรัตเป็นวัดรูปแบบสูงตระหง่านที่แสดงถึงความเชื่อและการบูชาเทพเจ้า -
หอบูชาซิกกูแรตแห่งเมืองอูร์ในเมโสโปเตเมียเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อทางศาสนาและอำนาจของกษัตริย์โบราณ ส่งผลต่อการพัฒนาสถาปัตยกรรมศาสนาในอารยธรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบูชาพระเจ้าและจักรพรรดิ
-
มหากาพย์กิลกาเมชเป็นหนึ่งในวรรณกรรมที่เก่าแก่ที่สุดของโลก นำเสนอเรื่องราวของกษัตริย์กิลกาเมชแห่งอูรุค ความเชื่อเกี่ยวกับชีวิต ความตาย และความเป็นมนุษย์ที่สะท้อนในวัฒนธรรมเมโสโปเตเมียและอารยธรรมโบราณอื่น ๆ
-
การสร้างซิกกูรัตที่เมืองเออร์ (Ziggurat of Ur) เริ่มต้นในช่วง ประมาณปี 2100-2000 ปีก่อนคริสตกาล สมัยราชวงศ์ที่ 3 ของสุเมเรียน (Ur III Dynasty) โดยฟาโรห์อุร์-นัมมู (Ur-Nammu) การก่อสร้างซิกกูรัตที่เมืองเออร์เป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูเมืองและศาสนาในช่วงเวลานั้น
-
หอบูชาซิกกูแรตแห่งเมืองอูร์ (Ziggurat of Ur) เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่สำคัญที่สุดของอารยธรรมสุเมเรียนในเมโสโปเตเมีย ตัวซิกกูแรตแห่งเมืองอูร์เป็นหอบูชาขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นขั้นบันไดหลายชั้น ใช้เพื่อการบูชาเทพเจ้าและเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและพิธีกรรมของเมือง
-
ประมาณ 2040-1782 ปีก่อนคริสตกาล)
เป็นยุคที่มีการฟื้นฟูวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของอียิปต์ -
สมัยกลางของอียิปต์ (Middle Kingdom) อยู่ในช่วง ประมาณปี 2040 ถึง 1782 ปีก่อนคริสตกาล เป็นยุคที่มีการฟื้นฟูและเจริญรุ่งเรืองหลังจากการสิ้นสุดของยุคยุคแรก (First Intermediate Period) โดยการรวมอียิปต์ขึ้นเป็นอาณาจักรเดียวกันอีกครั้งภายใต้การปกครองของราชวงศ์ที่ 11 และ 12
-
(1894 ปีก่อนคริสตกาล)
บาบิโลนกลายเป็นศูนย์กลางแห่งการค้าและวัฒนธรรม -
การก่อตั้งอาณาจักรบาบิโลน (Babylonian Empire) เริ่มขึ้นในช่วง ประมาณปี 1894 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อเมืองบาบิโลนกลายเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรในสมัยราชวงศ์แรกของบาบิโลน โดยมีพระเจ้า แซมซู-อิลูน่า (Samsu-iluna) และพระเจ้า ฮัมมูราบี (Hammurabi) เป็นกษัตริย์ที่สำคัญที่สุด อาณาจักรบาบิโลนเจริญรุ่งเรืองจนถึงช่วงการล่มสลายครั้งแรกใน ประมาณปี 1595 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อถูกชาวฮิตไทต์โจมตี
-
การเขียนมหากาพย์กิลกาเมช (Epic of Gilgamesh) ถือเป็นหนึ่งในวรรณกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ มหากาพย์นี้เกิดขึ้นในอารยธรรมสุเมเรียน ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคเมโสโปเตเมีย (ปัจจุบันคืออิรัก) โดยคาดว่ามหากาพย์กิลกาเมชถูกเขียนขึ้นครั้งแรกในรูปของกวีบทสั้น ๆ ในช่วง ประมาณ 2100 ปีก่อนคริสต์ศักราช และต่อมาได้ถูกเขียนและบันทึกเป็นมหากาพย์ที่สมบูรณ์ในรูปแบบอักษรลิ่มบนแผ่นดินเหนียวในช่วง 1800-1200 ปีก่อนคริสต์ศักราช ในยุคอัคคาเดียน (Akkadian Empire)
-
กฎหมายฮัมมูราบี (Code of Hammurabi) เป็นชุดกฎหมายที่มีชื่อเสียงที่สุดของอารยธรรมบาบิโลนโบราณในเมโสโปเตเมีย ถูกสร้างขึ้นในสมัยของ พระเจ้า ฮัมมูราบี (Hammurabi) กษัตริย์แห่งอาณาจักรบาบิโลน ซึ่งครองราชย์ในช่วง ประมาณ 1792–1750 ปีก่อนคริสต์ศักราช
-
(ประมาณ 1754 ปีก่อนคริสตกาล)
กษัตริย์ฮัมมูราบีสร้างระบบกฎหมายที่เรียกว่า “กฎหมายฮัมมูราบี” ซึ่งเป็นหนึ่งในกฎหมายที่เก่าแก่ที่สุด -
(ประมาณ 1600-1046 ปีก่อนคริสตกาล)
เป็นราชวงศ์แรกที่มีหลักฐานการเขียนในประวัติศาสตร์จีน -
การก่อตั้งราชวงศ์ชาง (Shang Dynasty) ในจีนเริ่มต้นใน ประมาณปี 1600 ปีก่อนคริสตกาล และดำเนินต่อเนื่องจนถึง ประมาณปี 1046 ปีก่อนคริสตกาล ราชวงศ์ชางเป็นราชวงศ์ที่มีการพัฒนาการเขียนและศิลปะอย่างก้าวหน้า รวมถึงการก่อสร้างและการปกครองที่มีระเบียบ
-
(ประมาณ 1550-1077 ปีก่อนคริสตกาล)
อียิปต์รุ่งเรืองถึงขีดสุด มีการขยายอาณาจักรและสร้างวิหารลักซอร์ -
สมัยราชวงศ์ใหม่ของอียิปต์ (New Kingdom) อยู่ในช่วง ประมาณปี 1550 ถึง 1077 ปีก่อนคริสตกาล เป็นช่วงเวลาที่อียิปต์มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในด้านการทหาร สถาปัตยกรรม และการขยายอาณาจักร สมัยนี้ครอบคลุมราชวงศ์ที่ 18 ถึงราชวงศ์ที่ 20 โดยมีฟาโรห์ที่มีชื่อเสียง เช่น อาเมนโฮเทปที่ 3 (Amenhotep III), ฮัตเชปซุต (Hatshepsut), อเคนาเตน (Akhenaten), และ รามเสสที่ 2 (Ramesses II)
-
(1500-500 ปีก่อนคริสตกาล)
เป็นยุคแห่งการบันทึกคัมภีร์พระเวทซึ่งเป็นศาสนาพื้นฐานของฮินดู -
(ประมาณ 1500 ปีก่อนคริสตกาล)
ชาวอารยันนำระบบวรรณะและคัมภีร์พระเวทเข้าสู่ภูมิภาคอินเดีย -
ยุคพระเวท (Vedic period) ในประวัติศาสตร์อินเดียเริ่มต้นประมาณ 1500 ปีก่อนคริสตกาล และดำเนินต่อเนื่องจนถึงประมาณ 500 ปีก่อนคริสตกาล เป็นช่วงเวลาที่มีการบันทึกคัมภีร์พระเวท (Vedas) ซึ่งเป็นเอกสารทางศาสนาและปรัชญาของฮินดูที่สำคัญ รวมถึงช่วงเวลาที่ระบบวรรณะเริ่มเป็นที่รู้จักและพัฒนาขึ้น
-
การเข้ามาของชาวอารยันในอินเดียเกิดขึ้นในช่วง ประมาณปี 1500 ถึง 1200 ปีก่อนคริสตกาล ชาวอารยันเป็นกลุ่มชนอินโด-ยูโรเปียนที่อพยพเข้ามาทางตอนเหนือของอนุทวีปอินเดีย การอพยพของชาวอารยันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและสังคมที่สำคัญ รวมถึงการก่อตั้งวัฒนธรรมพระเวท (Vedic culture) ซึ่งเป็นรากฐานของศาสนาและระบบสังคมอินเดียในยุคต่อมา
-
ฟาโรห์หญิงฮัตเชปซุตเป็นหนึ่งในผู้หญิงไม่กี่คนที่ครองอียิปต์ เธอสร้างความเจริญรุ่งเรืองด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ส่งเสริมการค้าและสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น วิหารเดอีร์เอลบาฮารี
-
พระนางเป็นอิสตรีผู้ที่ครองบัลลังค์เป็นฟาโรห์องค์ที่สามแต่กลับเป็นที่รู้จักอย่างมากในฐานะ "ราชินีมีเครา" มาจากการที่พระนางได้สวมเคราปลอมเหมือนบุรุษฟาโรห์ทำกัน พระนางได้แต่งตำนานเกี่ยวกับประสูติกาลของพระนางว่า "เมื่อเทพอามุนผู้ยิ่งใหญ่แห่งนครธีบส์ หลงรักหญิงงามนามว่าอาโมส อามุนได้เข้าหานางและมีสัมพันธ์กับนาง โดยที่พระองค์อามุนแต่งตั้งบุตรีในครรภ์ของอาโมสเป็นผู้นั่งบัลลังค์ฮอรัสตลอดไป" ดังนั้นถือได้ว่าเป็นการฉลาดที่พระนางแต่งตำนานไว้เพื่อให้ไม่มีประชาชนหน้าไหนกล่าวหาพระนางได้อีก
-
(ประมาณ 1438-1533 ค.ศ.)
จักรวรรดิอินคากลายเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในเทือกเขาแอนดีส -
การขยายอำนาจของจักรวรรดิอินคาเริ่มต้นขึ้นในช่วง ประมาณปี 1438 เมื่อจักรพรรดิ ปาชากูตี (Pachacuti) เริ่มขยายอาณาเขตจากเมืองกุสโก (Cusco) และขยายไปทั่วภูมิภาคแอนดีสในอเมริกาใต้ จักรวรรดิอินคาเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็วและกลายเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ จนถึงช่วงการล่มสลายเมื่อเผชิญกับการรุกรานของชาวสเปนใน ปี 1533
-
(ประมาณ 1279-1213 ปีก่อนคริสตกาล)
เป็นกษัตริย์ที่มีชื่อเสียงจากการต่อสู้และการสร้างวิหารขนาดใหญ่ -
รัชกาลของฟาโรห์รามเสสที่ 2 หรือที่รู้จักกันในชื่อ รามเสสมหาราช (Ramesses II) อยู่ในช่วง ประมาณปี 1279 ถึง 1213 ปีก่อนคริสตกาล เขาเป็นฟาโรห์ที่ปกครองอียิปต์ในช่วงราชวงศ์ที่ 19 และมีชื่อเสียงจากการก่อสร้างวิหารและอนุสาวรีย์หลายแห่ง รวมถึงการต่อสู้ในสงครามกับฮิตไทต์ที่เมืองคาดิส
-
สงครามทรอยซึ่งถูกบันทึกไว้ในมหากาพย์อีเลียดของโฮเมอร์กลายเป็นตำนานที่มีผลกระทบต่อวัฒนธรรมและวรรณกรรมกรีก ส่งผลให้เกิดแรงบันดาลใจในศิลปะ วรรณกรรม และสถาปัตยกรรมในยุคต่อมา
-
ชาวฟินิเชียมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและเผยแพร่อักษรที่เป็นต้นแบบของอักษรกรีกและละติน อักษรฟินิเชียทำให้การสื่อสารและการค้าข้ามภูมิภาคเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
-
ลิคูร์กัสผู้นำการปฏิรูปกฎหมายและการปกครองในสปาร์ตา ทำให้สปาร์ตากลายเป็นรัฐทหารที่มีระบบสังคมที่เข้มงวดและมีระเบียบ ส่งผลให้สปาร์ตาเป็นหนึ่งในรัฐที่มีอำนาจทางการทหารในกรีซโบราณ
-
การก่อตั้งสปาร์ตา และ การปฏิรูปของลิคูร์กัส เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของกรีกโบราณที่มีผลต่อการพัฒนาโครงสร้างสังคมและการเมืองของเมืองรัฐสปาร์ตา (Sparta) อย่างมาก
-
(ประมาณ 600 ปีก่อนคริสตกาล)
มคธกลายเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและศาสนาในอินเดีย -
(ประมาณ 600 ปีก่อนคริสตกาล)
ปรัชญากรีกเริ่มมีบทบาทสำคัญในยุโรป โดยมีนักปรัชญาเช่น เฮราคลิตัสและเพลโต -
การเกิดของปรัชญากรีกเริ่มต้นในช่วง ประมาณศตวรรษที่ 6 ปีก่อนคริสตกาล และเจริญรุ่งเรืองไปจนถึง ประมาณศตวรรษที่ 4 ปีก่อนคริสตกาล ในช่วงยุคคลาสสิกของกรีก ปรัชญากรีกเริ่มจากนักปรัชญาธรรมชาติ (Pre-Socratic philosophers) เช่น เธลีสแห่งไมเลตุส (Thales of Miletus) ที่เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับธรรมชาติของจักรวาล
-
การก่อตั้งอาณาจักรมคธ (Magadha) เกิดขึ้นในช่วงประมาณ ปี 600 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเริ่มเจริญรุ่งเรืองในสมัยราชวงศ์ฮิษชา (Haryanka Dynasty) ราชวงศ์นี้มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์อินเดียและมีความสำคัญในด้านการเมืองและศาสนา โดยเฉพาะในช่วงสมัยของพระเจ้าอโศก (Ashoka) ของราชวงศ์เมารยะ (Maurya Dynasty) อาณาจักรมคธได้ขยายอาณาเขตและมีอิทธิพลมากขึ้นจนกระทั่งการสิ้นสุดของอาณาจักรในช่วงประมาณ ปี 320 ค.ศ.
-
(ประมาณ 563 ปีก่อนคริสตกาล)
เจ้าชายสิทธัตถะโคตมะตรัสรู้และกลายเป็นพระพุทธเจ้า -
(509 ปีก่อนคริสตกาล)
โรมเปลี่ยนจากราชอาณาจักรมาเป็นสาธารณรัฐซึ่งมีระบบการปกครองแบบสภา -
การก่อตั้งสาธารณรัฐโรมัน (Roman Republic) เกิดขึ้นใน ปี 509 ปีก่อนคริสตกาล หลังจากการโค่นล้มกษัตริย์องค์สุดท้ายของกรุงโรม (กษัตริย์ทาร์ควินที่ 7) และสาธารณรัฐโรมันดำเนินต่อเนื่องจนถึง ปี 27 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อออกุสตุสขึ้นเป็นจักรพรรดิและก่อตั้งจักรวรรดิโรมัน
สาธารณรัฐโรมันมีระบบการปกครองที่เน้นการแบ่งอำนาจระหว่างวุฒิสภาและเจ้าหน้าที่รัฐหลายฝ่าย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนากฎหมายและการเมืองที่มีอิทธิพลต่อโลกตะวันตก -
(ประมาณ 800 ปีก่อนคริสตกาล)
นครรัฐต่างๆ เช่น เอเธนส์และสปาร์ตาเริ่มก่อตั้งและแข่งขันกันในด้านการเมืองและวัฒนธรรม -
การก่อตั้งนครรัฐกรีก (Greek city-states หรือ Polis) เริ่มต้นในช่วง ประมาณปี 800 ปีก่อนคริสตกาล และดำเนินไปจนถึงการล่มสลายและการยึดครองโดยอเล็กซานเดอร์มหาราชใน ประมาณปี 338 ปีก่อนคริสตกาล
นครรัฐเหล่านี้ เช่น เอเธนส์ สปาร์ตา และโครินธ์ เจริญรุ่งเรืองด้านวัฒนธรรม การเมือง และการทหารในช่วงยุคคลาสสิก (ประมาณ 500–323 ปีก่อนคริสตกาล) และมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของโลกยุคโบราณ -
(499-449 ปีก่อนคริสตกาล)
การต่อสู้ระหว่างกรีกกับเปอร์เซียเพื่อรักษาเอกราชของนครรัฐกรีก -
สงครามเปอร์เซีย (Greco-Persian Wars) เกิดขึ้นระหว่าง ปี 499 ปีก่อนคริสตกาล ถึง ปี 449 ปีก่อนคริสตกาล เป็นการสู้รบระหว่างพันธมิตรนครรัฐกรีกกับจักรวรรดิเปอร์เซีย โดยมีการสู้รบสำคัญหลายครั้ง เช่น การรบที่มาราธอน (490 ปีก่อนคริสตกาล) การรบที่เธอร์โมพิลี (480 ปีก่อนคริสตกาล) และการรบทางทะเลที่ซาลามิส (480 ปีก่อนคริสตกาล) สงครามนี้จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเปอร์เซียและการรักษาเอกราชของนครรัฐกรีก
-
(ประมาณ 475-221 ปีก่อนคริสตกาล)
เป็นยุคแห่งสงครามระหว่างรัฐต่างๆ ก่อนการรวมจีน -
ยุคจ้านกว๋อ (Zhan Guo) หรือ "ยุคสงครามระหว่างรัฐ" ในประวัติศาสตร์จีนเกิดขึ้นระหว่าง ประมาณปี 475 ปีก่อนคริสตกาล ถึง 221 ปีก่อนคริสตกาล เป็นช่วงเวลาที่จีนถูกแบ่งแยกออกเป็นหลายรัฐที่แข่งขันกันในด้านการเมืองและการทหาร ก่อนที่จะรวมตัวกันภายใต้การปกครองของราชวงศ์ฉินในปี 221 ปีก่อนคริสตกาล
-
(ประมาณ 447 ปีก่อนคริสตกาล)
เป็นสัญลักษณ์ของยุคทองของกรีกและวัฒนธรรมที่รุ่งเรือง -
การสร้างวิหารพาร์เธนอน (Parthenon) ในเอเธนส์เริ่มขึ้นใน ปี 447 ปีก่อนคริสตกาล และแล้วเสร็จใน ปี 432 ปีก่อนคริสตกาล พาร์เธนอนถูกสร้างขึ้นในยุคทองของเอเธนส์ภายใต้การนำของเพริคลีส (Pericles) เพื่อถวายแด่เทพีอาธีนา (Athena) ซึ่งเป็นเทพผู้พิทักษ์ของนครเอเธนส์
-
(336-323 ปีก่อนคริสตกาล)
อเล็กซานเดอร์ขยายอาณาจักรจากกรีซไปถึงอินเดีย -
การสถาปนาอาณาจักรของอเล็กซานเดอร์มหาราชเริ่มต้นใน ปี 336 ปีก่อนคริสตกาล เมื่ออเล็กซานเดอร์ขึ้นเป็นกษัตริย์ของมาซิโดเนียหลังจากการสวรรคตของพระบิดา ฟิลิปที่ 2 การขยายอาณาจักรของเขาเริ่มต้นในปีเดียวกันและดำเนินต่อไปจนถึงการเสียชีวิตของเขาใน ปี 323 ปีก่อนคริสตกาล การขยายตัวของอเล็กซานเดอร์ทำให้เขาสร้างอาณาจักรที่กว้างใหญ่ครอบคลุมพื้นที่จากกรีซไปจนถึงอินเดีย
-
(ประมาณ 322-185 ปีก่อนคริสตกาล)
จันทรคุปต์ เมารยะ สถาปนาจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ในอินเดีย -
จักรวรรดิเมารยะ (Maurya Empire) เริ่มต้นขึ้นใน ประมาณปี 322 ปีก่อนคริสตกาล และดำเนินอยู่จนถึง ประมาณปี 185 ปีก่อนคริสตกาล จักรวรรดิเมารยะถูกสถาปนาโดยจันทรคุปต์ เมารยะ และมีการขยายอาณาเขตในยุคของพระเจ้าอชาตศัตรู (Ashoka) ซึ่งเป็นจักรพรรดิที่มีชื่อเสียงจากการเผยแพร่พุทธศาสนา
-
(264-241 ปีก่อนคริสตกาล)
เป็นสงครามระหว่างโรมกับคาร์เธจเพื่อครอบครองพื้นที่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน -
สงครามพิวนนิกครั้งแรก (First Punic War) เกิดขึ้นระหว่าง ปี 264 ถึง 241 ปีก่อนคริสตกาล เป็นสงครามระหว่างกรุงโรมกับเมืองคาร์เธจ (Carthage) เพื่อควบคุมพื้นที่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยสงครามนี้เป็นการต่อสู้ที่สำคัญเพื่อการควบคุมเกาะซิซิลีและดินแดนรอบๆ
-
(ประมาณ 2000 ปีก่อนคริสตกาล)
มายาเป็นอารยธรรมที่มีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างและปฏิทิน -
การก่อตั้งอารยธรรมมายาเกิดขึ้นในช่วง ประมาณ 2000 ปีก่อนคริสตกาล และเจริญรุ่งเรืองต่อเนื่องจนถึง ประมาณปี 900 หลังคริสตกาล ในช่วงคลาสสิกของอารยธรรมมายา (250–900 หลังคริสตกาล) ซึ่งเป็นยุคที่มายามีการสร้างสรรค์ด้านสถาปัตยกรรม วิทยาศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรมอย่างมาก หลังจากนั้น แม้อารยธรรมมายาจะเสื่อมถอยลง แต่ยังคงมีชุมชนมายาหลายแห่งอยู่รอดต่อไปจนกระทั่งการเข้ามาของชาวสเปนในศตวรรษที่ 16
-
(221 ปีก่อนคริสตกาล)
ฉินสื่อหวงตี้รวมจีนเป็นหนึ่งเดียวและเริ่มก่อสร้างกำแพงเมืองจีน -
การก่อตั้งราชวงศ์ฉิน (Qin Dynasty) เริ่มต้นใน ปี 221 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อจักรพรรดิฉินชิฮวง (Qin Shi Huang) รวมอาณาจักรต่าง ๆ เข้าด้วยกันและประกาศตัวเองเป็นจักรพรรดิองค์แรกของจีน ราชวงศ์ฉินมีอายุสั้นและสิ้นสุดลงใน ปี 206 ปีก่อนคริสตกาล หลังจากการลุกฮือของประชาชนและการล่มสลายของอาณาจักร
-
(202 ปีก่อนคริสตกาล - 220 ค.ศ.)
ราชวงศ์ฮั่นทำให้จีนรุ่งเรืองทั้งในด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ -
การก่อตั้งราชวงศ์ฮั่นเริ่มต้นขึ้นใน ปี 202 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อ ลู่ปิง (Liu Bang) ขึ้นเป็นจักรพรรดิหลังจากชัยชนะในสงครามต่อต้านราชวงศ์ฉินและคู่แข่งอื่นๆ ราชวงศ์ฮั่นดำเนินต่อเนื่องจนถึงการสิ้นสุดใน ปี 220 ค.ศ. เมื่อจักรวรรดิฮั่นตะวันตก (Western Han) สิ้นสุดลงและถูกแทนที่โดยยุคสามก๊ก
-
(ประมาณ 200 ค.ศ.)
ติคัลเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการปกครองและวัฒนธรรมของมายา -
การสร้างนครรัฐติคัล (Tikal) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองสำคัญของอารยธรรมมายาเริ่มต้นในช่วง ประมาณปี 200-300 ค.ศ. และเมืองนี้เจริญรุ่งเรืองในช่วงคลาสสิกของมายา (250–900 ค.ศ.) นครรัฐติคัลเป็นศูนย์กลางของการปกครองและวัฒนธรรมมายา มีการสร้างสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและวรรณกรรมที่สำคัญ
-
(138-126 ปีก่อนคริสตกาล)
นักการทูตจางเชียนเริ่มสำรวจเส้นทางสายไหมเชื่อมจีนกับตะวันตก -
การเดินทางของจางเชียน (Zhang Qian) เกิดขึ้นในช่วง ประมาณปี 138 ปีก่อนคริสตกาล ถึง ประมาณปี 126 ปีก่อนคริสตกาล จางเชียนเป็นนักการทูตชาวจีนที่ได้รับมอบหมายจากจักรพรรดิหวู่ตี้แห่งราชวงศ์ฮั่นให้ออกสำรวจและสร้างความสัมพันธ์กับดินแดนทางตะวันตก การเดินทางของเขาเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดเส้นทางสายไหม (Silk Road) ที่เชื่อมจีนกับเอเชียกลางและยุโรป
-
(27 ปีก่อนคริสตกาล)
ออกุสตุสกลายเป็นจักรพรรดิองค์แรกและเริ่มยุคจักรวรรดิโรมัน -
การก่อตั้งจักรวรรดิโรมันเกิดขึ้นใน ปี 27 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อ ออกุสตุส (Augustus) ได้รับการประกาศให้เป็นจักรพรรดิองค์แรก หลังจากสิ้นสุดยุคสาธารณรัฐโรมัน จักรวรรดิโรมันดำเนินมาเป็นเวลานานและรุ่งเรืองจนถึงการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตกใน ปี ค.ศ. 476
ส่วนจักรวรรดิโรมันตะวันออก (จักรวรรดิไบแซนไทน์) ยังคงอยู่ต่อไปจนถึงการล่มสลายใน ปี ค.ศ. 1453 -
การตั้งถิ่นฐานของชาวฟินิเชีย และ การเผยแพร่อักษร เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ที่มีผลกระทบต่อการพัฒนาทางวัฒนธรรมและการสื่อสารในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนและทั่วโลก
-
การล่มสลายของเมืองทรอย เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์และวรรณกรรมโบราณของกรีก โดยเฉพาะในตำนานกรีก ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดขึ้นในช่วงประมาณ ศตวรรษที่ 12–13 ก่อนคริสต์ศักราช
การล่มสลายของเมืองทรอย เป็นเหตุการณ์สำคัญที่มีผลกระทบทั้งในประวัติศาสตร์จริงและในวรรณกรรมกรีกโบราณ ตำนานสงครามทรอยเป็นเรื่องราวที่แสดงถึงความสำคัญของการสื่อสารและการทำสงครามในยุคโบราณ ขณะเดียวกันการค้นพบทางโบราณคดีที่ฮิเซอร์ลิกช่วยให้เรามีความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับความเป็นจริงของเมืองทรอยและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น -
ชาวอินเดียโบราณคิดค้นระบบตัวเลขทศนิยมที่พัฒนาจนเป็นพื้นฐานของคณิตศาสตร์ในปัจจุบัน การค้นพบนี้เป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ การคำนวณ และเทคโนโลยีในสมัยต่อมา
-
การค้นพบระบบตัวเลขทศนิยมของชาวอินเดียเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์คณิตศาสตร์ เนื่องจากเป็นการพัฒนาระบบที่ช่วยให้การคำนวณและการศึกษามีความสะดวกและแม่นยำมากขึ้น ระบบนี้มีผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อการพัฒนาเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ในประวัติศาสตร์ทั้งในอินเดียและทั่วโลก
-
4 ปีก่อนคริสต์ศักราช – การประสูติของพระเยซูคริสต์
กำเนิดศาสนาคริสต์ที่มีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์โลกอย่างลึกซึ้ง -
ก็เข้ามาแทนที่ อารยธรรมไมนอสพบเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษชื่อเซอร์อาร์เธอร์ อีแวนส์ ตามคำกล่าวของวิลล์ ดูรันต์วัฒนธรรมครีตไมนอสมีตำแหน่งในประวัติศาสตร์ว่าเป็น “สิ่งแรกที่เชื่อมวัฒนธรรมยุโรป”
-
(44 ปีก่อนคริสตกาล)
ซีซาร์ถูกลอบสังหารเนื่องจากความหวาดกลัวว่าเขาจะกลายเป็นเผด็จการ -
70 ค.ศ. – การทำลายกรุงเยรูซาเลม
โรมทำลายเยรูซาเลมและทำลาย -
จักรพรรดิฉินสื่อหวงตี้รวมแผ่นดินจีนและก่อตั้งราชวงศ์ฉิน ซึ่งเป็นการรวมอาณาจักรจีนเป็นครั้งแรก มีการสร้างกำแพงเมืองจีนและมาตรฐานระบบชั่ง ตวง วัด เพื่อความเป็นเอกภาพทางเศรษฐกิจ
-
หอสมุดแห่งอเล็กซานเดรียในอียิปต์เป็นศูนย์กลางความรู้และการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในโลกยุคโบราณ รวบรวมหนังสือและข้อมูลจากหลากหลายวัฒนธรรม เป็นสัญลักษณ์ของการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และวิทยาศาสตร์ของยุคเฮลเลนิสติก
-
ชาวมายาในเมโสอเมริกาเริ่มพัฒนาระบบเกษตรกรรมชลประทานและการปลูกข้าวโพดที่ก้าวหน้า ทำให้อารยธรรมมายามีความเจริญรุ่งเรืองด้านการค้า ศาสนา และสถาปัตยกรรม เช่น การสร้างพีระมิดมายา
-
อารยธรรมมิโนอันบนเกาะครีตที่รุ่งเรืองจากการค้าและวัฒนธรรมล่มสลาย อาจเกิดจากการปะทุของภูเขาไฟบนเกาะแซนโตรินีหรือการรุกรานจากไมซีนี อิทธิพลของมิโนอันส่งผลต่อวัฒนธรรมกรีกในยุคถัดมา
-
ในปี ค.ศ. 376 ชาวก็อธ (Goths) และชนเผ่าที่ไม่ใช่ชาวโรมัน หนีจากพวกฮันมาลี้ภัยอยู่ในจักรวรรดิ ในปี ค.ศ. 395 หลังจากชนะสงครามกลางเมือง 2 ครั้ง จักรพรรดิเทออดอซิอุสที่ 1 สวรรคต ทิ้งกองทัพที่ล่มสลายและจักรวรรดิที่ยังคงถูกครอบงำโดยชาวก็อธ
-
เป็นสงครามระหว่างจักรวรรดิเอเธนส์กับสันนิบาตเพโลพอนนีเซียนที่นำโดยสปาร์ตา สงครามนี้ออกเป็นสามช่วง เป็นการรุกรานแอททิกาของกองทัพสปาร์ตา ในขณะที่ฝ่ายเอเธนส์ใช้กองเรือที่มีประสิทธิภาพโจมตีกลับ สงครามช่วงนี้จบลงในปีที่ 421 ก่อนคริสตกาล ด้วยสนธิสัญญาสันติภาพนิซิอัส แต่ต่อมาในปีที่ 415 ก่อนคริสตกาล เอเธนส์กลับยกทัพบุกซีรากูซาบนเกาะซิซิลี แต่ล้มเหลว ช่วงที่สามของสงครามสปาร์ตาได้สนับสนุนให้มีการก่อกบฏขึ้นตามนครรัฐใต้อำนาจเอเธนส์จนนำไปสู่ยุทธนาวีที่เอกอสพอทาไมที่เป็นจุดยุติสงครามในที่สุด
-
480 ปีก่อนคริสต์ศักราช – สงครามที่เธอร์โมไพลี
กองทัพสปาร์ตันนำโดยกษัตริย์เลโอนิดัสต่อสู้กับกองทัพเปอร์เซีย -
สงครามนี้แสดงถึงการต่อต้านการขยายอำนาจของเปอร์เซียโดยนครรัฐกรีก โดยเฉพาะชัยชนะในยุทธการมาราธอน (490 ปีก่อนคริสต์ศักราช) และซาลามิส (480 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ช่วยให้กรีกมีความเจริญรุ่งเรืองในยุคทอง และมีอิทธิพลต่อศิลปะและปรัชญาตะวันตก
-
(753 ปีก่อนคริสตกาล)
โรมก่อตั้งขึ้นตามตำนานโดยโรมุลุสและรีมุส -
กําแพงเมืองจีน เริ่มสร้างครั้งแรกในยุคชุนชิว – จ้านกว๋อ (770 ปี ก่อนคริสต์ศักราช – 221 ปี ก่อนคริสต์ศักราช) หรือเมื่อประมาณ 2,000 กว่าปีก่อน เนื่องจากบ้านเมืองอยู่ในภาวะที่วุ่นวาย เกิดศึกสงครามชิงความเป็นใหญ่อยู่เสมอ ผู้นําแคว้นต่างๆ ได้แก่ แคว้นฉู่, แคว้นฉี, แคว้นเยียน, แคว้นเว่ย, แคว้นจ้าว, แคว้นฉิน ฯลฯ จึงช่วยกันสร้างกําแพงเมืองจีน เพื่อป้องกันการรุกรานของชนเผ่าทางเหนือ และการคุกคามจากชนเผ่าเลี้ยงสัตว์เร่ร่อน... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.silpa-mag.com/history/article_55156
-
800 ปีก่อนคริสต์ศักราช – การก่อตั้งกรุงคาร์เธจ
คาร์เธจในแอฟริกาเหนือกลายเป็นศูนย์กลางการค้าและอำนาจทางการทหาร -
เมืองคาร์เธจเป็นศูนย์กลางการค้าและอำนาจของฟีนีเชียในแอฟริกาเหนือ มีอิทธิพลอย่างมากต่อการค้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คาร์เธจกลายเป็นศัตรูสำคัญของกรุงโรม และการล่มสลายของมันในสงครามพิวนิกมีผลกระทบต่อการขยายอำนาจของโรมัน
-
อัสซีเรียเป็นหนึ่งในอาณาจักรแรกที่มีการทหารที่แข็งแกร่งและการขยายอำนาจด้วยการรุกรานทางทหาร ทำให้อัสซีเรียมีอำนาจครอบคลุมส่วนใหญ่ของตะวันออกกลางและกลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและการค้า
-
คัมภีร์ฮีบรูระบุว่าพระเจ้าซาโลมอน (ปกครองระหว่าง 971 - 931 ก่อน ค.ศ.)[2] โปรดให้สร้างพระวิหารแรก (First Temple) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนายูดาห์ตามบทบันทึกคัมภีร์ฮีบรู[3] เป็นที่เดียวที่เป็นที่ใช้ในการนมัสการ ตัวอาคารพระวิหารสร้างแทนพระวิหารศักดิ์สิทธิ์เดิมที่มีแท่นบูชาที่สร้างหยาบ ๆ บนเนิน[4] “พระวิหารแรก
-
การล่มสลายของราชวงศ์โจวสิ้นสุดยุคจ้านกว๋อหรือยุครัฐสงครามในจีน ทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่ราชวงศ์ฉิน ซึ่งทำให้จีนรวมตัวเป็นหนึ่งในยุคราชวงศ์ใหม่
-
อาณาจักรฮิตไทต์ที่เคยรุ่งเรืองในอนาโตเลียล่มสลายจากการรุกรานของชนเผ่า "ประชาชาติแห่งท้องทะเล" ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่มั่นคงและความเสื่อมถอยของอารยธรรมโบราณในภูมิภาคนี้